ชาวสวนลิ้นจี่พะเยากระอัก-เจอภัยแล้งดอกหล่น วอนรัฐช่วยด่วน

พะเยา – สวนลิ้นจี่พะเยากระอัก หลังเจอภัยแล้งหนัก ส่งผลกระทบให้ดอกลิ้นจี่ที่กำลังผลิดอกร่วงระนาว เนื่องจากขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยง ขณะที่เกษตรกรอำเภอแม่ใจลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกร

นายชินกร ไชยาเผือก เกษตรอำเภอแม่ใจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ของเกษตรกรตำบลศรีถ้อย อ.แม่ใจ หลังจากสถานการณ์ภัยแล้ง ได้ส่งผลกระทบต่อลิ้นจี่ที่กำลังออกดอกต้องร่วงหล่นเป็นจำนวนมากเนื่องจากขาดแคลนน้ำ เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้เกษตรกรต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ ที่พอมีน้ำเหลืออยู่รดต้นลิ้นจี่ ป้องกันกันดอกลิ้นจี่หล่น อันจะส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตในปีนี้

นางศรีแก้ว ใจพรหม อายุ 45 ปี 246 ม.6 เกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ ส่งผลกระทบให้ลิ้นจี่ในสวนของตนเอง ที่ปลูกไว้ประมาณ 16 ไร่ที่กำลังผลิดอก ได้รับผลกระทบอย่างมากทำให้ดอกที่กำลังติด ร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากขาดแคลนน้ำ

นอกจากนี้ยังมีตัวแปรอื่นอีก เช่น ลม และพายุฝนก็อาจส่งผลให้ดอกที่กำลังติดนั้นได้รับความเสียหายได้ โดยแหล่งน้ำที่มีอยู่ ใช้ได้เพียงอีกไม่กี่วัน เนื่องจากปีนี้ลิ้นจี่ติดมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้นบางรายถึงขั้นต้องแย่งน้ำกัน จึงขอวอนภาครัฐเร่งช่วยเหลือเกษตรกร โดยการจัดหาน้ำหรือแหล่งน้ำ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งในขณะนี้

นายชินกร เปิดเผยว่า อำเภอแม่ใจเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกลิ้นจี่มากที่สุดในจังหวัดพะเยา ประมาณ 20,000 ไร่โดยปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 10,000 ตัน ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง

แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานเกษตรกรอำเภอแม่ใจ เตรียมนำข้อมูลเกษตรกรที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัด เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกร เบื้องต้นเตรียมผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยชมพู หมู่ 6 บ้านทุ่งป่าข่า ต.ศรีถ้อย ที่มีความจุ ประมาณ 200,000 ลูกบาศก์เมตร เข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ ในตำบลศรีถ้อยกว่า 5,000 ไร่