ระนอง -ศาลจังหวัดระนองดึงผู้นำชุมชนเข้ามามีบทบาท ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อลดความขัดแย้งภายในชุมชน และลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้(2 มี.ค.52) นางสุภาพ ศิริกังวานกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่องบทบาทของผู้นำชุมชนในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามโครงการส่งเสริมการพัฒนางานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซึ่งศาลจังหวัดระนองจัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์และพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยให้ผู้นำชุมชนเข้ามามีบทบาทในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ในชุมชนสร้างความสมานฉันท์ให้แก่สังคม ลดปริมาณคดีที่ต้องนำขึ้นสู่ศาลมีผู้นำชุมชน ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน
และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในเขตอำเภอเมืองเข้ารับการสัมมนาจำนวน 130 คนมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ที่ห้องประชุม อบจ.ระนอง
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง กล่าวว่า ผู้นำชุมชนเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับชุมชน มีความรู้จักคุ้นเคย เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมของท้องถิ่น เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดและวิธีการดำเนินชีวิตของผู้อาศัยในชุมชนเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นจุดที่สามารถนำไปช่วยสร้างความประนีประนอมได้ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในชุมชน
อันนำมาซึ่งความสมานฉันท์ ในกรณีที่ยังไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางศาลก็จะเป็นการช่วยลดปริมาณคดีที่ต้องขึ้นสู่ศาลหรือในกรณีที่มีการฟ้องร้องคดีแล้วก็จะเป็นการช่วยให้คดีเสร็จจากศาลในเวลาอันรวดเร็ว นำมาซึ่งความพึงพอใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้(2 มี.ค.52) นางสุภาพ ศิริกังวานกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่องบทบาทของผู้นำชุมชนในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามโครงการส่งเสริมการพัฒนางานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซึ่งศาลจังหวัดระนองจัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์และพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยให้ผู้นำชุมชนเข้ามามีบทบาทในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท ในชุมชนสร้างความสมานฉันท์ให้แก่สังคม ลดปริมาณคดีที่ต้องนำขึ้นสู่ศาลมีผู้นำชุมชน ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน
และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในเขตอำเภอเมืองเข้ารับการสัมมนาจำนวน 130 คนมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ที่ห้องประชุม อบจ.ระนอง
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง กล่าวว่า ผู้นำชุมชนเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับชุมชน มีความรู้จักคุ้นเคย เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมของท้องถิ่น เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดและวิธีการดำเนินชีวิตของผู้อาศัยในชุมชนเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นจุดที่สามารถนำไปช่วยสร้างความประนีประนอมได้ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในชุมชน
อันนำมาซึ่งความสมานฉันท์ ในกรณีที่ยังไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางศาลก็จะเป็นการช่วยลดปริมาณคดีที่ต้องขึ้นสู่ศาลหรือในกรณีที่มีการฟ้องร้องคดีแล้วก็จะเป็นการช่วยให้คดีเสร็จจากศาลในเวลาอันรวดเร็ว นำมาซึ่งความพึงพอใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ด้วย
