ศาลเตรียมเปิดโครงการไกล่เกลี่ยคดีแพ่งและอาญา ปี 52 ที่ผ่านมา ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 114,578 คดี จาก 158,939 คดี คิดเป็นทุนทรัพย์ 59,000 ล้านบาท ช่วยลดคดีในชั้นศาล และสร้างความสมานฉันท์ระหว่างคู่กรณี เผยได้เคยแนะนำคดีทางการเมืองร่วมโครงการตลอด เพราะเป็นวิธีการเปิดให้คู่ความกำหนดจุดจบชัดเจน
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก เวลา 14.00 น. นางสาวจิตรา กาญธนะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา พร้อมคณะร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการไกล่เกลี่ย ประจำปี 2552 โดยสำนักระงับข้อพิพาท ซึ่งเป็นการรณรงค์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลทั่วประเทศระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.2552 เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กระบวนการระงับข้อพาทให้เป็นที่แพร่หลาย เป็นการเสริมสร้างความรู้ และอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม โดยจะจัดพิธีเปิดโครงการในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 7 สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น.
ด้าน นายสรวิศ ลิมปรังษี ผู้พิพากษาประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีคดีแพ่งและอาญา เข้าสู่โครงการไกล่เกลี่ย 158,939 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 114,578 คดี คิดเป็นทุนทรัพย์ 59,000 ล้านบาท ซึ่งคดีที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จส่วนใหญ่เป็นคดีแพ่ง ทุนทรัพย์น้อย อาทิ คดีกองทุนกู้ยืม เพื่อการศึกษา คดีมรดก สำหรับปัญหาที่พบคือ การจูงใจให้คู่ความมาไกล่เกลี่ยนั้นยาก เนื่องจากคู่ความไม่แน่ใจว่า จะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง บางครั้งคู่ความขาดนัดไม่สามารถตามตัวได้ จนทำให้ไกล่เกลี่ยไม่สำร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีคดีการเมืองจำนวนมาก จะมีการเชิญชวนให้มาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหรือไม่ นายสรวิศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการแนะนำมาโดยตลอด แม้คดีที่ไม่เข้ามาสู่ศาล แต่ก็สนับสนุนให้มีการไกล่เกลี่ย เพราะเป็นวิธีการที่เปิดโอกาสให้คู่ความสามารถกำหนดได้ว่าให้เรื่องจบแบบไหนและมีเงื่อนไขอย่างไร
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก เวลา 14.00 น. นางสาวจิตรา กาญธนะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา พร้อมคณะร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการไกล่เกลี่ย ประจำปี 2552 โดยสำนักระงับข้อพิพาท ซึ่งเป็นการรณรงค์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลทั่วประเทศระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.2552 เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กระบวนการระงับข้อพาทให้เป็นที่แพร่หลาย เป็นการเสริมสร้างความรู้ และอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม โดยจะจัดพิธีเปิดโครงการในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 7 สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น.
ด้าน นายสรวิศ ลิมปรังษี ผู้พิพากษาประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีคดีแพ่งและอาญา เข้าสู่โครงการไกล่เกลี่ย 158,939 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 114,578 คดี คิดเป็นทุนทรัพย์ 59,000 ล้านบาท ซึ่งคดีที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จส่วนใหญ่เป็นคดีแพ่ง ทุนทรัพย์น้อย อาทิ คดีกองทุนกู้ยืม เพื่อการศึกษา คดีมรดก สำหรับปัญหาที่พบคือ การจูงใจให้คู่ความมาไกล่เกลี่ยนั้นยาก เนื่องจากคู่ความไม่แน่ใจว่า จะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง บางครั้งคู่ความขาดนัดไม่สามารถตามตัวได้ จนทำให้ไกล่เกลี่ยไม่สำร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีคดีการเมืองจำนวนมาก จะมีการเชิญชวนให้มาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยหรือไม่ นายสรวิศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการแนะนำมาโดยตลอด แม้คดีที่ไม่เข้ามาสู่ศาล แต่ก็สนับสนุนให้มีการไกล่เกลี่ย เพราะเป็นวิธีการที่เปิดโอกาสให้คู่ความสามารถกำหนดได้ว่าให้เรื่องจบแบบไหนและมีเงื่อนไขอย่างไร
