กาฬสินธุ์- “บำรุง คะโยธา” ประธานชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน ออกแถลงการณ์ร่วมภาคประชาชนกาฬสินธุ์ จี้ กกต.จังหวัด-กกต.กลาง ลงดาบถอด “ชะม้อย” พ้น นายก อบจ.เมืองน้ำดำ จับตานับถอยหลังครบ 1 ปี คดีทุจริตจะเป็นเกาเหลาการเมืองหรือไม่ พร้อมตั้งตัวแทนเข้าร่วมตรวจสอบความเคลื่อนไหวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีองค์กรภาคประชาคมจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อง ผู้ตรวจการแผนดินรัฐสภา ให้ติดตามการทำงาน กกต.จังหวัด-กกต.กลาง กรณีการรับรองนางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งภาคประชาชนจังหวัดและ ส.อบจ.กาฬสินธุ์ ต้องการเห็นผลการทำงานที่เป็นธรรมของ กกต. เพราะเชื่อว่ามีปัญหาการซื้อเสียง แจกเงินเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.พ.) นายบำรุง คะโยธา นายก อบต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประชาชนภาคอีสาน หรือชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน กล่าวว่า การตรวจสอบติดตามปัญหาของนางชะม้อย วรามิตร นายก.อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกกลุ่มองค์กรภาคประชาชนคัดค้านผลการเลือกตั้ง แต่เงื่อนไขทางกฎหมายที่ผ่านมา กกต.จังหวัด ได้ส่งเรื่องให้ กกต.กลางพิจารณารับรองไปก่อนภายใน 30 วัน
ในวันที่ 11 มีนาคม 2552 ก็จะครบกำหนด 1 ปี ซึ่งหาก กกต.จังหวัดหรือ กกต.กลาง ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อการตรวจสอบจากการร้องเรียนก็จะทำให้ นางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ อย่างเต็มตัว
ในกรณีนี้สำหรับผู้ร้องที่เป็นภาคประชาชนและองค์กรการตรวจสอบการเลือกตั้ง รวมไปถึง ชมรม อปท.ภาคอีสาน ซึ่งตนเป็นคนดูแล ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะในพื้นที่เป็นที่รู้กันว่า มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ และหาก กกต.ไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนให้กับประชาชน ก็คงจะทำให้ พี่น้องประชาชนจะต้องเคลื่อนไหวกันอย่างแน่นอน
นายบำรุง กล่าวว่า การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ ชมรมฯ เองก็รับไม่ได้ และทุกครั้งความพยายามในการเปลี่ยนแปลงก็คือจะต้องมีภาคประชาชนที่เป็นอิสระทางความคิดเข้าร่วมตรวจสอบ ตั้งแต่กระบวนการเลือกตั้งไปจนถึงการทำงาน เพราะจะทำให้ นักการเมืองเข็ดขยาดเพราะหากมีการซื้อเสียง กกต.ก็จะต้องรับฟัง ไม่ใช่ว่าเอาปัญหาไปดองเอาไว้แล้วปล่อยให้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นเรื่องที่เลยตามเลย
นายบำรุงระบุว่า จะทำหนังสือร่วมกับภาคประชาชน และส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยจะมีการหารือร่วมกับ ชมรม.อปท.ภาคอีสาน ทั้ง 19 จังหวัด ให้เฝ้าติดตามเรื่องนี้ เพราะปัญหาการซื้อเสียงกรณี นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นเรื่องที่มีมูล แต่กลับไม่มีคำสั่งให้ตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆเพื่อเป็นทำให้การเมืองมีความสะอาดและยุติธรรมขึ้นหากปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเป็นความจริง กกต.ก็ควรที่จะพิจารณาไปตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้ หากไม่เป็นไปตามที่ประชาชนร้องเรียนก็สามารถที่จะแก้ต่างหรือฟ้องร้องกันได้ ขอให้ขึ้นอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่าให้ความร่วมมือในการเอาผิดกับผู้ที่พฤติกรรมทุจริต ความจริงก็จะปรากฏให้เห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีองค์กรภาคประชาคมจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อง ผู้ตรวจการแผนดินรัฐสภา ให้ติดตามการทำงาน กกต.จังหวัด-กกต.กลาง กรณีการรับรองนางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งภาคประชาชนจังหวัดและ ส.อบจ.กาฬสินธุ์ ต้องการเห็นผลการทำงานที่เป็นธรรมของ กกต. เพราะเชื่อว่ามีปัญหาการซื้อเสียง แจกเงินเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.พ.) นายบำรุง คะโยธา นายก อบต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประชาชนภาคอีสาน หรือชมรม อปท.เพื่อประชาชนภาคอีสาน กล่าวว่า การตรวจสอบติดตามปัญหาของนางชะม้อย วรามิตร นายก.อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกกลุ่มองค์กรภาคประชาชนคัดค้านผลการเลือกตั้ง แต่เงื่อนไขทางกฎหมายที่ผ่านมา กกต.จังหวัด ได้ส่งเรื่องให้ กกต.กลางพิจารณารับรองไปก่อนภายใน 30 วัน
ในวันที่ 11 มีนาคม 2552 ก็จะครบกำหนด 1 ปี ซึ่งหาก กกต.จังหวัดหรือ กกต.กลาง ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อการตรวจสอบจากการร้องเรียนก็จะทำให้ นางชะม้อย วรามิตร เป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์ อย่างเต็มตัว
ในกรณีนี้สำหรับผู้ร้องที่เป็นภาคประชาชนและองค์กรการตรวจสอบการเลือกตั้ง รวมไปถึง ชมรม อปท.ภาคอีสาน ซึ่งตนเป็นคนดูแล ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะในพื้นที่เป็นที่รู้กันว่า มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ และหาก กกต.ไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนให้กับประชาชน ก็คงจะทำให้ พี่น้องประชาชนจะต้องเคลื่อนไหวกันอย่างแน่นอน
นายบำรุง กล่าวว่า การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ ชมรมฯ เองก็รับไม่ได้ และทุกครั้งความพยายามในการเปลี่ยนแปลงก็คือจะต้องมีภาคประชาชนที่เป็นอิสระทางความคิดเข้าร่วมตรวจสอบ ตั้งแต่กระบวนการเลือกตั้งไปจนถึงการทำงาน เพราะจะทำให้ นักการเมืองเข็ดขยาดเพราะหากมีการซื้อเสียง กกต.ก็จะต้องรับฟัง ไม่ใช่ว่าเอาปัญหาไปดองเอาไว้แล้วปล่อยให้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นเรื่องที่เลยตามเลย
นายบำรุงระบุว่า จะทำหนังสือร่วมกับภาคประชาชน และส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยจะมีการหารือร่วมกับ ชมรม.อปท.ภาคอีสาน ทั้ง 19 จังหวัด ให้เฝ้าติดตามเรื่องนี้ เพราะปัญหาการซื้อเสียงกรณี นายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นเรื่องที่มีมูล แต่กลับไม่มีคำสั่งให้ตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆเพื่อเป็นทำให้การเมืองมีความสะอาดและยุติธรรมขึ้นหากปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเป็นความจริง กกต.ก็ควรที่จะพิจารณาไปตามกฎหมายทันที
ทั้งนี้ หากไม่เป็นไปตามที่ประชาชนร้องเรียนก็สามารถที่จะแก้ต่างหรือฟ้องร้องกันได้ ขอให้ขึ้นอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่าให้ความร่วมมือในการเอาผิดกับผู้ที่พฤติกรรมทุจริต ความจริงก็จะปรากฏให้เห็น