ร้องระงับผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโพนพิสัย

หนองคาย - ทีมนายแพทย์ศัลย์ ยกคณะเข้าร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย ระบุ อาจมีการทุจริตการเลือกตั้ง ขณะที่ผู้สมัครในทีมขอคำชี้แจงที่ชัดเจนจาก กกต.หลังถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติก่อนการเลือกตั้งเพียง 2 วัน ส่งผลต่อผลการเลือกตั้งที่แพ้คู่แข่งเพียง 98 คะแนน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (23 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหนองคาย ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายแพทย์ศัลย์ ประชุม ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมตรีตำบลโพนพิสัย หมายเลข 1 อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้นำทีมงานเข้าร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยผลการเลือกตั้ง นายณรงค์ศักดิ์ ลิมโพธิ์ทอง ผู้สมัครหมายเลข 2 และเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลโพนพิสัย ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 801 ต่อ 703

โดยยื่นเอกสารร้องคัดค้านต่อ ร.ต.อ.ทวี ศรีวรษา พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหนองคาย ทางด้าน น.ส.ทิพรัตน์ อมตสกุล หนึ่งในผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลก็เรียกร้องขอให้ กกต.ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่ กกต.กลาง ระบุว่า น.ส.ทิพรัตน์ ขาดคุณสมบัติ ไม่มีสัญชาติไทย ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้ว น.ส.ทิพรัตน์ มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด ทำให้ไม่สามารถรับสมัครเลือกตั้งได้ และแจ้งผลการตัดสิทธิ์ก่อนถึงวันเลือกตั้งเพียง 2 วันเท่านั้น ส่งผลต่อคะแนนการเลือกตั้งทำให้ทีมนายแพทย์ศัลย์ แพ้ต่อคู่แข่งเพียง 98 คะแนนเท่านั้น

นายแพทย์ ศัลย์ ประชุม กล่าวว่า ในครั้งนี้ต้องการยื่นเรื่องคัดค้านผลการเลือกตั้งต่อเจ้าหน้าที่ กกต.ก่อนจะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งตนและคณะพิจารณาแล้วเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ มีหลายองค์ประกอบที่ส่อไปในการกระทำทุจริตต่อการเลือกตั้งของฝ่ายตรงข้ามซึ่งฝ่ายตนมีหลักฐานที่สามารถระบุได้ว่าฝ่ายตรงข้ามกระทำความผิด

ซึ่งผลคะแนนที่ออกมาก็มีลักษณะผิดปกติ เช่น 3 หน่วยเลือกตั้ง มีผลคะแนนใกล้เคียงกัน แต่อีกหน่วยกลับคะแนนกระโดดทิ้งห่างกันแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยต้องการให้มีการนับคะแนนใหม่ หากผลคะแนนถูกต้องตามที่ประกาศก็พร้อมที่จะยอมรับว่าเป็นเสียงของประชาชนที่แท้จริง แต่หากผลคะแนนไม่เป็นเช่นนั้นก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายและเลือกตั้งใหม่

นายสิทธินัย ลิมป์ลพานนท์ ผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องคัดค้านไว้เป็นงานธุรการก่อน เพื่อตรวจสอบคำร้อง แล้วพิจารณาว่าเป็นไปตามเรื่องที่สามารถสืบสวนสอบสวนได้ จึงเสนอต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนเชิญผู้ร้องทุกข์มาให้ปากคำในลำดับต่อไป

ส่วนกรณีของ น.ส.ทิพรัตน์ อมตสกุล นั้น เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามคำชี้แจง และหนังสือของ กกต.กลางที่ส่งการขาดคุณสมบัติของ น.ส.ทิพรัตน์ มายังสำนักงาน กกต.และสำนักงานเทศบาลตำบลโพนพิสัย หากผู้ถูกติดใจสงสัย ต้องรอคำวินิจฉัยโดยละเอียดจาก กกต.กลาง ก่อนว่าข้อเท็จจริงแล้วเป็นประการใด