เอเอสทีวีผู้จัดการ-CPF เดินหน้าขยายโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ อีก 80 โรงเรียน หลังประสบความสำเร็จ ช่วยเด็กไทยกว่า 6 หมื่นคนพ้นทุพโภชนา
นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า มูลนิธิเป็นผู้ประสานงานโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ปัจจุบันสามารถดำเนินโครงการฯ ในโรงเรียนตามถิ่นทุรกันดารแล้วจำนวน 278 แห่ง ซึ่งช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลพ้นจากภาวะทุพโภชนาการแล้วกว่า 60,000 คน
“ในปี 2552 นี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าขยายการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนตามแนวพระราชดำริฯนี้เพิ่มเติมอีก 80 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 15 แห่ง โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 50 แห่งและที่เหลือเป็นสถานศึกษาอื่นๆ” นายสุปรีกล่าว
ซีพีเอฟ จะดำเนินโครงการฯ ด้วยการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ การสนับสนุนพันธุ์ไก่ อาหาร และยา-วัคซีน พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาล เข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการการเลี้ยงไก่ไข่เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ไม่ว่าสถานที่ตั้งของโรงเรียนนั้นๆจะตั้งอยู่ห่างไกลและยากลำบากในการเข้าถึงเพียงใด เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถสร้างผลผลิตไข่ไก่ในโรงเรียนได้สำเร็จ และนำผลผลิตส่วนหนึ่งมาประกอบเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียนได้รับประทานโปรตีนจากไข่ไก่เป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน และบางส่วนนำออกจำหน่ายเพื่อหารายได้มาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่าย ทำให้โครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่สิ้นสุด และสามารถช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้พ้นภาวะทุพโภชนาการได้อย่างต่อเนื่อง
โครงการนี้เป็นที่ยอมรับว่าสามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาภาวะโภชนาการของเด็กได้อย่างยั่งยืน จึงมีหลายหน่วยงานขอเข้าร่วมเจตนารมณ์กับทางซีพีเอฟ เช่น หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพ เข้าร่วมดำเนินโครงการแล้ว 40 โรงเรียน, บริษัท สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมดำเนินโครงการ 2 โรงเรียน, และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) 2 โรงเรียน เป็นต้น
นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า มูลนิธิเป็นผู้ประสานงานโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ปัจจุบันสามารถดำเนินโครงการฯ ในโรงเรียนตามถิ่นทุรกันดารแล้วจำนวน 278 แห่ง ซึ่งช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลพ้นจากภาวะทุพโภชนาการแล้วกว่า 60,000 คน
“ในปี 2552 นี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าขยายการส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนตามแนวพระราชดำริฯนี้เพิ่มเติมอีก 80 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 15 แห่ง โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 50 แห่งและที่เหลือเป็นสถานศึกษาอื่นๆ” นายสุปรีกล่าว
ซีพีเอฟ จะดำเนินโครงการฯ ด้วยการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ การสนับสนุนพันธุ์ไก่ อาหาร และยา-วัคซีน พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาล เข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการการเลี้ยงไก่ไข่เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ไม่ว่าสถานที่ตั้งของโรงเรียนนั้นๆจะตั้งอยู่ห่างไกลและยากลำบากในการเข้าถึงเพียงใด เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถสร้างผลผลิตไข่ไก่ในโรงเรียนได้สำเร็จ และนำผลผลิตส่วนหนึ่งมาประกอบเป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียนได้รับประทานโปรตีนจากไข่ไก่เป็นประจำทุกสัปดาห์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน และบางส่วนนำออกจำหน่ายเพื่อหารายได้มาจัดสรรเป็นค่าใช้จ่าย ทำให้โครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่สิ้นสุด และสามารถช่วยเหลือเด็กนักเรียนให้พ้นภาวะทุพโภชนาการได้อย่างต่อเนื่อง
โครงการนี้เป็นที่ยอมรับว่าสามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาภาวะโภชนาการของเด็กได้อย่างยั่งยืน จึงมีหลายหน่วยงานขอเข้าร่วมเจตนารมณ์กับทางซีพีเอฟ เช่น หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพ เข้าร่วมดำเนินโครงการแล้ว 40 โรงเรียน, บริษัท สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมดำเนินโครงการ 2 โรงเรียน, และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) 2 โรงเรียน เป็นต้น