พิจิตร – ภัยแล้งรุนแรงไม่หยุด ชาวไร่แตงโม ต้องลงทุนซื้อน้ำประปาใส่รถบรรทุกรดสวน ที่รอเก็บเกี่ยวผลผลิต พร้อมถามนโยบายเปิดก๊อกน้ำทำนาที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยใช้หาเสียง พูดจริงทำได้จริง หรือแค่โม้หาเสียง
นายสถิตย์ สุทัศน์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 8 ต.ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร แต่มาเช่าที่ดินทำไร่แตงโมนอกฤดูกาลทำนา ที่บ้านทุ่งสำราญ หมู่ 6 ต.สากเหล็ก จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ตนเองและญาติพี่น้องรวมกัน 3 หุ้น มาเช่าที่ดิน 40 ไร่เศษ เพื่อทำไร่แตงปลูกแตงโม ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรส่งเสริม ว่า เป็นพืชที่เหมาะกับฤดูแล้ง เพราะใช้น้ำน้อย โดยได้ลงทุนไปแล้วนับแสนบาท และคาดว่าอีกเพียง 10 หรือไม่เกิน 15 วัน ก็จะตัดผลแตงโมขายได้
ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นเดือนนี้เป็นต้นมา อากาศร้อน และภัยแล้งมารวดเร็ว อีกทั้งพื้นที่โดยรอบไร่แตงโมของตนก็ทำนาปรังกันมาก จนต้องแย่งกันสูบน้ำเพื่อไปทำนา แม้จะเจาะบ่อน้ำบาดาลแต่ก็สูบน้ำบาดาลไม่ขึ้น ตอนนี้แตงโมกำลังจะแห้งตายจึงได้ตัดสินใจนำรถบรรทุกข้าวเปลือกที่มีอยู่ดัดแปลงเป็นรถบรรทุกน้ำไปขอซื้อน้ำประปาจากการประปาพิจิตร สาขาสากเหล็ก ที่อยู่ห่างจากไร่แตงโม ราว 10 กม.ในราคาคิวละ 16 บาท บรรทุกได้คราวละ 8 คิว หรือ 24,000 ลิตรต่อเที่ยว รวมค่าน้ำมันและค่าน้ำประปาตกเที่ยวละเกือบ 400 บาท โดยได้ไปซื้อน้ำประปามารดแตงโมในไร่แล้วหลายเที่ยวรถ ซึ่งเป็นการลงทุนที่สูงมาก
“ต้องยอมจ่าย ดีกว่าปล่อยให้แตงโมต้องแห้งตาย แตงโมที่กำลังออกผลรอตัดไปขาย ซึ่งตอนนี้ราคารับซื้อกิโลกรัมละ 7 บาท ผลผลิต 1 ไร่ก็จะได้แตงโมราว 1,200-1,500 กก.คิดเป็นรายได้รวม 40 ไร่ ก็จะได้ราว 3 แสนบาท เป็นอย่างต่ำ”
นอกจากนี้ ยังมีชาวนาที่มีที่นาตั้งอยู่ติดกับถังของการประปาสากเหล็ก ก็มาขอเจรจาหลายรายเพื่อที่จะขอซื้อน้ำประปาไปให้น้ำต้นข้าวที่กำลังจะแห้งตาย พร้อมทั้งถามถึงนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยเสนอนโยบายเปิดก๊อกน้ำทำนาในช่วงสมัยหาเสียง ว่าทำได้จริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่คุยโม้หาเสียงเท่านั้น แต่ที่แน่ๆ ชาวนาพิจิตร ขณะนี้ต้องช่วยตัวเองด้วยการซื้อน้ำประปาทำนาแล้วจริงๆ