“สุพร วนิชกุล”เปิดคลื่นวิทยุชุมชน “We Love The King”ร่วมถ่ายทอดเสียงเวทีพันธมิตรฯ

รายงาน
ศูนย์ข่าวภูเก็ต

คลื่นวิทยุชุมชน “We Love The King We Love Thailand” เป็นอีกหนึ่งคลื่นวิทยุชุมนุมหลายๆคลื่นในประเทศไทย ที่ถ่ายทอดสดเสียงจากเวทีชุมนุมของพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตยจากทำเนียบรัฐบาล ตลอดช่วงของการชุมนุมจนประกาศชัยชนะ

คลื่นวิทยุชุมชน “We Love The King We Love Thailand” เป็นคลื่นวิทยุชุมนมในภูเก็ต มีด้วยกันสองความถี่ คือ FM 94.25 MHz และคลื่นความถี่ FM 104.75 MHz ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนเทพกระษัตรีย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมี “สุพร วนิชกุล” เป็นเจ้าของคลื่น ซึ่งสุพรเองก็เป็นที่รู้จักของคนภูเก็ตเป็นอย่างดี เนื่องจากได้เป็นผู้ดำเนินการในการก่อสร้างพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือที่รู้จักกันว่า “พระใหญ่” ที่บริเวณยอดเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สุพร เล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจถ่ายทอดสดเสียงการชุมนุมของเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียมรัฐบาล ว่า เรามีสถานที่วิทยุชุมชนที่ใช้ชื่อว่า “ We Love The King We Love Thailand” ซึ่งมีอยู่สองความถี่ด้วยกัน คือ FM 94.25 MHz และFM 104.75 MHz

ก่อนหน้าที่จะมีการถ่ายสอดเสียงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ผมได้มีการประสานการทำงานร่วมกับศิลปิน “หรั่ง ร็อคเคสตรา” มาโดยตลอด มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน และก่อนหน้าที่จะมีการถ่ายทอดสดเสียงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวการชุมนุมผ่านทาง ASTV มาโดยตลอดเช่นกัน ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน

หลังมีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายประชาชนหรือพสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่หน้ารัฐสภา เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กระทบจิตใจประชาชนคนไทยมาก สถานีวิทยุจึงต้องการที่จะนำเสนอข่าวสารที่มีความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายพันธมิตรฯ โดยเฉพาะฝ่ายพันธมิตรฯซึ่งเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งตรงนี้เราเห็นว่าพสกนิกรของพระองค์ท่านถูกทำร้าย เราทำใจไม่ได้ ฉะนั้นสิ่งที่ เราสามารถจะทำอะไรได้ จะช่วยอะไรได้บ้าง เราก็อยากจะช่วย นั่นคือเจตนาอยากให้ทุกคนได้รับทราบข่าวสารโดยเท่าเทียมกัน มิใช่ครอบงำอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ตรงนี้เป็นวัตถุประสงค์ที่เราถ่ายทอดเสียงการชุมนุมของพันธมิตรผ่านทางคลื่นวิทยุชุมชนที่เรามีอยู่ทั้งสองคลื่น

“ตั้งใจทุกครั้ง ถ้าเกิดปัญหาและชาติต้องการ เราจะถ่ายสอดสดเสียงของการชุมนุมหรือการร่วมกลุ่มเพื่อขับไล่คนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพราะสถานีไม่ได้ตกอยู่ภายใต้นายทุนคนใดคนหนึ่ง เราพร้อมที่จะถ่ายทอดข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นธรรมให้ประชาชนชาวภูเก็ตได้รับทราบ และถามว่ากลัวไม่ที่ถ่ายทอดเสียงในขณะนั้น พูดได้ทันทีว่าไม่กลัว ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนกับวิทยุชุมชนที่จังหวัดเชียงใหม่”

สุพร เล่าต่อว่า หลังจากที่ทางเราเปิดถ่ายทอดเสียงการชุมชุน ปรากฎว่ามีผู้ฟังสนใจตอบรับมากมาย ซึ่งสถานีดีใจมาก ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะเขาชอบความเป็นธรรม เราเองก็ไม่ใช่นักการเมืองแต่เราสนับสนุนประชาธิปไตย เราต้องการรักษาสถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์ให้อยู่คู่กันตรงนั้นคือสิ่งที่เรายึดถือ ใครมาทำลายไม่ได้เด็ดขาด เราพยายามที่จะแสดงให้ทุกคนรับรู้รับทราบว่า เรารักพระเจ้าอยู่หัว เรารักสถาบัน

สุพร เล่าอีกว่า เมื่อการชุมนุมยุติลง เราเองก็ต้องยุติบทบาทในการถ่ายทอดเสียงการชุมนุม เพราะเราไม่ใช่นักการเมือง เพียงแต่เราต้องการนำเสนอข่าวสารให้เท่าเทียมกันตรงนั้น โดยปัจจุบันที่สถานี มีพี่น้องพันธมิตรฯโทร.เข้ามาตลอด ซึ่งตรงนี้คนที่ทำงานอยู่ที่สถานีก็มีความสุขแล้วในภาวะอย่างนี้น่าจะอยู่ในภาวะปกติ แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ผิดปกติ เราก็พร้อมที่จะรักษากติกาตรงนั้น ตอนนี้เราอยากได้ข่าวที่ไม่ไปกระทบกับใคร แต่เราพร้อมที่จะให้มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องใครที่ทำลายสถาบัน เรายินดีเอามาเผยแพร่ เพราะเราทำเพื่อที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

อย่างคราวที่เสียเขาพระวิหารประชาชนก็ไม่รู้เรื่องถ้าไม่มี ASTV ไม่มีคุณสนธิ ไม่มีบุคคลหลายๆคนที่จะเป็นแกนนำกล้าหาญ ที่จะนำข้อมูลออกมาเปิดเผยให้ได้ทราบ ว่ามีการโกงกินยังไง ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง แต่นั่นคือภาษีของชาวบ้าน ถ้าไม่มีคนกล้าหาญอย่างนี้ก็ลำบากเหมือนกันบ้านเมือง

หลังจากนี้ไปแล้ว เราก็ติดตามข่าวว่าจะเป็นไปในทิศทางใด และอยากให้การเมืองนิ่ง ตอนนี้ฝรั่งเองเขาก็อยากจะเห็นบ้านเมืองของเราสงบ และแม้ว่าพันธมิตรฯจะยุติการชุมนุมแล้ว แต่ทางสถานีก็ยังมีการประชาสัมพันธ์ และแสดงความจงรักภักดีอยู่ตลอด เพียงแต่ว่าเราเป็นคลื่นวิทยุที่เน้นเกี่ยวกับศาสนา ไม่อยากให้อีกฝ่ายมองว่าเราเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เราอยากนำเสนอความจริง ถ้าเป็นความจริง เราก็พร้อมจะทำหน้าที่ตรงนั้น คลื่น 94.25 และ 104.75 ทั้ง 2 คลื่น โดยทั้งสองคลื่นออกอากาศตั้งแต่ 05.30-22.30 แต่หากจำเป็นเมื่อไหร่ก็ออกอากาศทั้งวัน เพราะเราไม่ผูกพันกับใคร เนื้อหาสาระส่วนใหญ่เน้นทางศาสนาและพระมหากษัตริย์ และมีบันเทิงบ้าง รับข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ ตามที่ได้กำหนด

สุพร เล่าอีกว่า ชาวภูเก็ตให้การตอบรับเป็นอย่างดี จะมีโทรศัพท์เข้ามาอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่คนที่ฟังจะเป็นสายที่รักในหลวง และคนภูเก็ตเชื่อว่า 99% รักและเคารพในหลวงมาก สถาบันถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะท่านก็อยู่กับพระพุทธศาสนารวมถึงศาสนาอื่นๆในเมืองไทย ฝรั่งบางคนเขาก็รักในหลวง เขาบอกว่ากษัตริย์พระองค์นี้มีแต่ให้และช่วยเหลือราษฎร

นอกจากคลื่นวิทยุแล้ว สุพร ยังเล่าถึงภารกิจใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ว่า ตนได้ดำเนินการในการเป็นหัวแรง ในการสร้างพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือ พระใหญ่ บนยอดเขานาคเกิด เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก สร้างถวายพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2545 บนเนื้อที่ 42 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา

หลังจากนั้นเราก็ดำเนินการโดย วัดกิตติสังฆาราม ร่วมกับมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 เป็นโครงการให้วัดไปรักษาป่า ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 150 ล้านบาท และได้รับตรา 80 ปีจากพระองค์ท่านเพื่อมาประดิษฐานที่หน้าพระ และสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธาน ให้เป็นพระประจำเมืองภูเก็ต ก็จะมีตราตั้งบอก โดยสร้างเป็นพระพุทธรูปอยู่ 2 องค์ องค์ใหญ่ ชื่อ รวมใจภักดิ์สร้างพระถวายพ่อ หล่อพระถวายแม่ โดยขณะนี้ตัวองค์พระใหญ่จะเสร็จแล้ว เหลือเพียงประดับฐานบัว ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเยี่ยมชมและบริจาคได้ที่มูลนิธิฯ