ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ประชุมหน่วยงานรัฐ-เอกชน หารือรับมือผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ ธุรกิจโรงแรมเชียงใหม่ครวญนักท่องเที่ยวต่างชาติวูบ ประเมินสูญรายได้ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน จ่อลอยแพพนักงาน 4,000 คน หลังสงกรานต์เพื่อประคองธุรกิจช่วงโลว์ซีซั่น ขณะที่ประธานสภาอุตสาหกรรมชี้ไตรมาสสองเริ่มเห็นผลกระทบชัด คาดธุรกิจส่งออกเลิกจ้างงาน 10% เหตุยอดสั่งซื้อหาย
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2552 ซึ่งมีคณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งขึ้นเพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านการป้องกัน การแก้ไขปัญหาและการกำหนดมาตรการเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมีระบบและประสิทธิภาพ
ในการประชุม นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) กล่าวว่า ปัจจุบันมีห้องพักในจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 ห้อง และยังคงมีการสร้างเพิ่มอีก สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าในช่วง 3 เดือนระหว่าง ธ.ค.51-ก.พ.52 จังหวัดเชียงใหม่จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 50% และราคาห้องพักเฉลี่ย 900 บาทต่อห้องต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 74% และมีราคาห้องพักเฉลี่ย 1,500 บาทต่อห้องต่อวัน ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่าจะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมที่พักต้องสูญเสียรายได้จากค่าห้องพัก รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) ระบุว่า หลังจากสิ้นสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะย่างเข้าสู่ช่วงที่การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ซบเซา คาดว่าอุตสาหกรรมโรงแรมของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันมีการจ้างพนักงานอยู่ทั้งหมดประมาณ 21,000 คน อาจมีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดพนักงานลงประมาณ 20% หรือประมาณ 4,000 คน รวมทั้งไม่สามารถรับนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงานได้
ทั้งนี้ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ในช่วงโลว์ซีซัน เนื่องจากรายได้ในช่วงไฮซีซันที่ผ่านมาลดน้อยลงมากจนแทบจะไม่เพียงพอ ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น จะต้องส่งเสริมการทำตลาดการจัดประชุมสัมมนาเข้ามาทดแทน
ด้านนายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังไม่เห็นผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ต้องรอให้ย่างเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ตามปกติจะมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจึงจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าจะต้องมีการเลิกจ้างงานหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ในภาคอุตสาหกรรมของของจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีการเลิกจ้าง แต่ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอาจจะมีการเลิกจ้างราว 10% ในธุรกิจส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากทั้งภาวะเศรษฐกิจและมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศที่เป็นตลาดส่งออก
นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้ภาครัฐมีการจำกัดและควบคุมแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มงวด เพื่อสงวนอาชีพให้แรงงานคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2552 ซึ่งมีคณะกรรมการประกอบด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งขึ้นเพื่อบูรณาการการดำเนินงานด้านการป้องกัน การแก้ไขปัญหาและการกำหนดมาตรการเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างมีระบบและประสิทธิภาพ
ในการประชุม นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) กล่าวว่า ปัจจุบันมีห้องพักในจังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 ห้อง และยังคงมีการสร้างเพิ่มอีก สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าในช่วง 3 เดือนระหว่าง ธ.ค.51-ก.พ.52 จังหวัดเชียงใหม่จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 50% และราคาห้องพักเฉลี่ย 900 บาทต่อห้องต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 74% และมีราคาห้องพักเฉลี่ย 1,500 บาทต่อห้องต่อวัน ซึ่งเบื้องต้นมีการประเมินว่าจะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมที่พักต้องสูญเสียรายได้จากค่าห้องพัก รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ยประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) ระบุว่า หลังจากสิ้นสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะย่างเข้าสู่ช่วงที่การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ซบเซา คาดว่าอุตสาหกรรมโรงแรมของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันมีการจ้างพนักงานอยู่ทั้งหมดประมาณ 21,000 คน อาจมีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดพนักงานลงประมาณ 20% หรือประมาณ 4,000 คน รวมทั้งไม่สามารถรับนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงานได้
ทั้งนี้ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ในช่วงโลว์ซีซัน เนื่องจากรายได้ในช่วงไฮซีซันที่ผ่านมาลดน้อยลงมากจนแทบจะไม่เพียงพอ ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น จะต้องส่งเสริมการทำตลาดการจัดประชุมสัมมนาเข้ามาทดแทน
ด้านนายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังไม่เห็นผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ต้องรอให้ย่างเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ตามปกติจะมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจึงจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าจะต้องมีการเลิกจ้างงานหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ในภาคอุตสาหกรรมของของจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีการเลิกจ้าง แต่ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอาจจะมีการเลิกจ้างราว 10% ในธุรกิจส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากทั้งภาวะเศรษฐกิจและมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศที่เป็นตลาดส่งออก
นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้ภาครัฐมีการจำกัดและควบคุมแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มงวด เพื่อสงวนอาชีพให้แรงงานคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ