เอกชนท่องเที่ยว ไม่เชื่อน้ำยารัฐบาลมองยังขาดเสถียรภาพหลังสภาล่ม ฉะนโยบายประชานิยมเพียงเรียกคะแนนเสียง หวั่นต่างชาติไม่มั่นใจ กระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว ระบุชัดตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 52 ทำได้อย่างดีแค่ 14 ล้านคน เหตุไตรมาสแรกยอดวูบเฉียด50% ด้านวีระศักดิ์ เตรียมร่างแผนบริหารความเสี่ยง
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า เอกชนยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะในวันก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องยุติลง(สภาล่ม) เพราะองค์ประชุมไม่ครบ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ร่วมมือในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งยังมีความแตกแยกกันอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้การแก้ปัญหาไม่เดินหน้าเท่าที่ควร มาตรการหลายอย่างของรัฐบาลที่ออกมาในขณะนี้เหมือนเตรียมไว้เพื่อหาเสียง เพราะส่วนใหญ่เป็นมาตรการระยะสั้น ปัจจัยที่กล่าวมา ประกอบกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ธุรกิจได้
ทั้งนี้ผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ 3เดือนแรกของปีนี้ อัตราเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยลดลง 30-50% ซึ่งหากจะต้องประเมินภาพรวมทั้งปี 2552 ก็คาดเดาได้ว่า อัตราเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศจะลดลงราว 10-30% ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 60.64% จากช่วงปกติที่จะอยู่ประมาณ 65-70% ทำให้ตลอดปี 2552 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาไทยเต็มที่ประมาณ 14 ล้านคน ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว โดย 11 เดือนแรกของปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13.4 ล้านคน และ เดือน ธ.ค. ก็มีปัญหาเรื่องปิดสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวน่าจะลดต่ำมาก
โรงแรมส่งสัญญาณไม่ขึ้นราคา
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมได้เสนอใบปรับปรุงราคาห้องพักประจำปี 2552 ที่ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายเอเยนต์ทัวร์เป็นราคาใหม่แล้ว โดยกว่า 99% ไม่มีการปรับขึ้นราคาค่าห้องพัก เพราะเข้าใจสถานการณ์และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
เบื้องต้น มั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบทุกตลาดจะลดลงหรือเท่าเดิม ไม่เติบโต เช่น ตลาดอังกฤษ และเยอรมัน ลดลง 30% ตลาดแสกนดิเนเวีย ลดลง 10% และตลาดอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส รวมถึงจีน ก็ลดลงเช่นกัน ส่วนตลาด จีน อินเดีย และตะวันออกกลางจะได้รับผลกระทบน้อย
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วง ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาไทยหลายตลาดลดลงกว่า 50% ทำให้ค่าเฉลี่ยทั้งปีต้องลดลง ส่งผลตัวเลขรวมทั้งปี นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น่าจะเกิน 14 ล้านคน น้อยกว่าปี 2550 ที่ได้14.38 ล้านคน
ต้องจับตามองการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่าจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะตรงนี้จะสะท้อนภาพของสถานการณ์ การท่องเที่ยวไทยในปีนี้ หากเกิดความวุ่นวายจะทำให้ความเชื่อมั่นลดลง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน ประธานบอร์ด ททท. กล่าวว่า ได้เตรียมร่างแผนบริหารความเสี่ยงให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำไปใช้ในเวลาที่เกิดวิกฤตปัญหา และกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยจะนำประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น เหตุการณ์ชุมนุม การปิดสนามบิน เป็นต้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จะต้องทำอย่างไรเพื่อประคองสถานการณ์ท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า เอกชนยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะในวันก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องยุติลง(สภาล่ม) เพราะองค์ประชุมไม่ครบ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ร่วมมือในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งยังมีความแตกแยกกันอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้การแก้ปัญหาไม่เดินหน้าเท่าที่ควร มาตรการหลายอย่างของรัฐบาลที่ออกมาในขณะนี้เหมือนเตรียมไว้เพื่อหาเสียง เพราะส่วนใหญ่เป็นมาตรการระยะสั้น ปัจจัยที่กล่าวมา ประกอบกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ธุรกิจได้
ทั้งนี้ผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ 3เดือนแรกของปีนี้ อัตราเข้าพักของนักท่องเที่ยวเฉลี่ยลดลง 30-50% ซึ่งหากจะต้องประเมินภาพรวมทั้งปี 2552 ก็คาดเดาได้ว่า อัตราเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศจะลดลงราว 10-30% ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 60.64% จากช่วงปกติที่จะอยู่ประมาณ 65-70% ทำให้ตลอดปี 2552 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาไทยเต็มที่ประมาณ 14 ล้านคน ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว โดย 11 เดือนแรกของปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 13.4 ล้านคน และ เดือน ธ.ค. ก็มีปัญหาเรื่องปิดสนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวน่าจะลดต่ำมาก
โรงแรมส่งสัญญาณไม่ขึ้นราคา
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมได้เสนอใบปรับปรุงราคาห้องพักประจำปี 2552 ที่ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายเอเยนต์ทัวร์เป็นราคาใหม่แล้ว โดยกว่า 99% ไม่มีการปรับขึ้นราคาค่าห้องพัก เพราะเข้าใจสถานการณ์และผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
เบื้องต้น มั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบทุกตลาดจะลดลงหรือเท่าเดิม ไม่เติบโต เช่น ตลาดอังกฤษ และเยอรมัน ลดลง 30% ตลาดแสกนดิเนเวีย ลดลง 10% และตลาดอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส รวมถึงจีน ก็ลดลงเช่นกัน ส่วนตลาด จีน อินเดีย และตะวันออกกลางจะได้รับผลกระทบน้อย
ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วง ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาไทยหลายตลาดลดลงกว่า 50% ทำให้ค่าเฉลี่ยทั้งปีต้องลดลง ส่งผลตัวเลขรวมทั้งปี นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น่าจะเกิน 14 ล้านคน น้อยกว่าปี 2550 ที่ได้14.38 ล้านคน
ต้องจับตามองการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่าจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ เพราะตรงนี้จะสะท้อนภาพของสถานการณ์ การท่องเที่ยวไทยในปีนี้ หากเกิดความวุ่นวายจะทำให้ความเชื่อมั่นลดลง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน ประธานบอร์ด ททท. กล่าวว่า ได้เตรียมร่างแผนบริหารความเสี่ยงให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำไปใช้ในเวลาที่เกิดวิกฤตปัญหา และกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยจะนำประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น เหตุการณ์ชุมนุม การปิดสนามบิน เป็นต้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จะต้องทำอย่างไรเพื่อประคองสถานการณ์ท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก