อุดรธานี - ผู้บัญชาการมณฑลทหารที่ 24 เรียกสื่อพบให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้แดง-เหลือง หลีกเลี่ยงปะทะ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ หวั่นนองเลือดซ้ำรอย 24 ก.ค.51 เสื้อแดงถ่อยรุมฆ่าพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 1 กองบัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม พลตรีชูรัช เสน่ห์เมือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ได้เปิดการแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ในจังหวัดอุดรธานี ถึงเรื่องความเตรียมพร้อมและข่าวประชาสัมพันธ์ต่อเหตุการณ์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะจัดเวทีปราศรัยให้ความรู้การเมืองใหม่
พลตรีชูรัช กล่าวว่า ตามที่ได้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และแนวร่วมทั่วประเทศจะเดินทางมาจัดงาน “คาราวานพันธมิตรเพื่อการเมืองใหม่” ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ฯ อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 และมีกลุ่มแนวร่วมชมรมคนรักอุดรจะออกมาต่อต้านการชุมนุม ซึ่งทั้งสองกลุ่มจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเกิดความรุนแรงขึ้นนั้น มณฑลทหารบกที่ 24 มีความห่วงใยในสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ด้วยความสำนึกรับผิดชอบในความเป็นพี่น้องร่วมชาติ โดยคำนึงถึงการปฏิบัติการให้เหมาะสมตามกรอบของกฎหมาย ในทุกสถานการณ์ตามขั้นตอนอย่างเข้มแข็ง และเต็มความสามารถโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 กล่าวต่อว่า อยากเรียนทำความเข้าใจว่า การเมืองย่อมมีการเปลี่ยนแปลง มีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง และเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ที่ผ่านมา ปัญหาการขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางด้านการเมือง ก่อให้เกิดความแตกแยกร้าวลึกทางสังคมอย่างกว้างขวาง
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ประเทศชาติขาดความมั่นคงและความเชื่อมั่นจากชาวโลก ทำให้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนในชาติทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
กรณีวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 หากมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น จะทำให้ภาพลักษณ์อันดีงามของจังหวัดอุดรธานีเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง และจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของจังหวัดในอนาคตด้วย จึงใคร่ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าให้คิดถึงความสงบสุขของบ้านเมือง ซึ่งหากทุกคนให้ความร่วมมือจะเป็นการรักษาภาพลักษณ์อันดีงามของจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนไทยทั่วประเทศตลอดไป
พลตรี ชูรัช กล่าวต่อว่า บรรพบุรุษของเราได้เสียสละเลือดเนื้อชีวิต ในการต่อสู้กับอริราชศัตรู รักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานได้มีผืนแผ่นดินอาศัย เป็นมาตุภูมิอย่างสงบสุข และอบอุ่น หากคนไทยในปัจจุบันที่ได้อาศัยผืนแผ่นดินนี้อันเป็นมรดกจากบรรพบุรุษ ยังทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันแล้ว แผ่นดินนี้ก็ปราศจากความสุขไม่เหลือความภาคภูมิใจให้ลูกหลานไทยต่อไป เราชาวอุดรธานีต่างก็มีความรักภาคภูมิใจในผืนแผ่นดินนี้ อยากให้บ้านของเรามีแต่ความสงบสุข ร่มเย็น รักษาเกียรติยศของคนอุดรฯให้ลูกหลานเราได้ภาคภูมิใจ
ดังนั้น ทุกท่านต้องตั้งสติ คิดให้รอบคอบมุ่งเน้นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และตนเชื่อมั่นว่าความรัก ความสามัคคีของคนในชาติเท่านั้น ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ดังนั้นเราคนไทยทุกคนจำเป็นต้องหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เพื่อสร้างความเข้าใจ และความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านโดยเร็ว บนพื้นฐานความสำนึกในความเป็นไทยด้วยกัน โดยการยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
พลตรีชูรัช กล่าวในตอนท้ายว่า ตนหวังว่า พี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีทุกคน จะเป็นผู้ที่เชื่อมประสาน ความรัก ความสามัคคี และสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นภายในชาติโดยเร็ว ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้ทุกคน “รู้รักสามัคคี” เพื่อนำพาประเทศชาติของเรา ผ่านพ้นห้วงเวลาแห่งความยุ่งยากนี้ไปให้ได้
พลตรี ชูรัช ได้กล่าวถึงข้อซักถามที่ว่าในขณะนี้ได้มีกลุ่ม 2 กลุ่ม คือ ชมรมคนรักอุดรและชมรมคนรู้ใจ ได้ออกมาพูดแล้วว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ ทั้ง 2 กลุ่มจะไม่ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ถ้าหากมีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงเกิดขึ้นในวันนั้น ทางกลุ่มทั้ง 2 จะไม่ขอรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่เป็นการกระทำของกลุ่มทั้ง 2 นั้นแน่ๆ
พลตรี ชูรัช กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนก็ได้เตรียมกำลังไว้แล้วในที่ตั้ง เพื่อให้การสนับสนุนหากเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้เองขอมา ก็บอกไม่ได้ว่าเตรียมกำลังไว้เท่าไหร่ แต่ก็พอเพียงที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างแน่นอน
พลตรี ชูรัช ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนตัวนั้นตนมีความเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เราไม่ห่วงในเรื่องการปฏิบัติที่จะแก้ปัญหา เรามีความพร้อมสูงสุด ในการชุมนุนครั้งนี้ไม่ว่าเสื้อสีอะไรก็ไม่ควรที่จะทำอะไรให้รุนแรง ก็ขอให้ชุมนุมกันโดยสันติ ก็ตรงนี้ที่ขอให้สื่อมวลชนได้ช่วยกันทำอย่างไรที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ชุมนุมกันอย่างสงบ ในส่วนของกลุ่มเสื้อแดง ก็ขอให้ชุมนุมในพื้นที่ของตัวเอง หากมีแนวคิดแนวทางใดจะพัฒนาบ้านเมือง ก็พูดคุยกันไปในพื้นที่ของตน ทางฝ่ายเสื้อเหลือง ก็พูดคุยกันในสิ่งที่ตนต้องการให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปอย่างไร ทุกคนต่างทำหน้าที่แล้วไม่โจมตีกันเกินไป จะทำให้เกิดการบาดหมาง กระทบกระทั่งกัน ไม่เข้าไปหากัน
เชื่อว่า พี่น้องในท้องถิ่นจริงๆ เป็นคนบ้านเดียวกันก็ไม่มีอะไรกัน อาจต่างความคิดเห็นกันบ้าง จะห่วงที่สุดก็คือเรื่องพี่น้องเสื้อแดงที่ไม่สังกัดกลุ่มใด หรือชมรมใดอาจจะออกมาก่อกวน โดยใช้พวกหนังสติ๊กเป็นอาวุธยิงเข้ามาสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นได้