ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการเลิกจ้างงานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จะทำให้ความต้องการสินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัยและการลงทุนในปี 52 ลดน้อยลง จนกระทบต่อตัวเลขรวมการปล่อยสินเชื่อของทั้งแบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐ ที่ในปีนี้อาจมียอดการปล่อยกู้สูงสุดเพียง 2 แสนล้านบาทต้นๆ ซึ่งถือเป็นตัวเลขการปล่อยสินเชื่อที่ลดต่ำกว่าทุกๆ ปีก่อนๆ ที่สูงถึง 3 แสนล้าน และหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ก็อาจตกต่ำถึง1 แสนล้านปลายๆ ชี้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงในการลงทุนสูงและจะถูกจับตาจากแบงก์มากขึ้นก็คืออุตฯส่งออก ยานยนต์และท่องเที่ยว
วันนี้ (11 ก.พ.) ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดให้มีการสัมมนาในหัวข้อ “ผ่าอสังหาริมทรัพย์ปี 2552 จังหวัดชลบุรี-ระยอง” ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสนบีช จังหวัดชลบุรี โดยมีกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของโครงการในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 100 คน
จุดประสงค์สำคัญคือ การนำเสนอผลงานสำรวจภาคสนามโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง พร้อมสรุปภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดชลบุรี ที่มีมากถึง 223 โครงการ และมีจำนวนหน่วยตามผังโครงการทั้งที่ขายได้แล้วและยังอยู่ระหว่างการขายรวมกว่า 3 หมื่นหน่วย
ขณะที่จังหวัดระยองมีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขาย 86 โครงการ และมีหน่วยเสนอขายตามผังโครงการกว่า 6.4 พันหน่วย
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยว่าการพัฒนาโครงการส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจะกระจุกตัวอยู่ใน 3 พื้นที่หลัก คืออำเภอเมืองชลบุรี บางละมุง และศรีราชาและมีกลุ่มระดับราคาที่ 1-2.99 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มราคาที่มีการเสนอขายและมียอดขายสูงสุด ขณะที่โครงการจัดสรรในแนวราบจะได้รับผลกระทบโดยกว่าโครงการจัดสรรในแนวสูง ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะเมืองพัทยาถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องพึ่งกำลังซื้อจากต่างประเทศ และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในปี 2552 อาจเห็นภาพโครงการที่อยู่อาศัยสร้างไม่เสร็จเป็นจำนวนมาก จากผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นกัน
อย่างไรก็ดี คาดว่าภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของทั้งแบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐในปีนี้จะมีตัวเลขสูงสุดเพียง 2 แสนล้านบาทต้นๆ เท่านั้น และถือเป็นตัวเลขการปล่อยสินเชื่อที่น้อยกว่าปีก่อนๆ ที่มีจำนวนสูงกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากความเข้มงวดในการปล่อยกู้ของแบงก์ต่างๆ รวมทั้งความต้องการสินเชื่อที่ลดลงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการถูกเลิกจ้างของผู้มีรายได้
ในปีนี้แบงก์ต่างๆ จะจับตากลุ่มอุตสาหกรรม ที่ถือว่ามีความเสี่ยงทางการลงทุนสูงไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมด้านการส่งออก ยานยนต์ และท่องเที่ยวเป็นพิเศษ ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลก็จะเพิ่มเงื่อนไขการปล่อยกู้จากการพิจารณาผู้มีรายได้ขั้นต่ำเดิมที่ 1 หมื่นบาท เป็น 1.2-1.5 หมื่นบาท ส่วนเงินดาวน์ในกรณีการขอกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ก็จะขยับเป็น 25-30% เพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยงในการปล่อยกู้
ทั้งนี้ จากการสำรวจภาคสนามโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยอง ยังพบว่าสถิติการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยแนวราย ณ ไตรมาส 3ปี 2551 มีจำนวนก 4,317 หน่วย ลดลงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วยเดียวกันของปีก่อน ที่มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อที่อยู่อาศัยอาคารสูง จำนวน 35 อาคาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 และมีการโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ณ 10 เดือนแรก กว่า 1.3 หมื่นราย รวมมูลค่ากว่า 166 ล้านบาท
คาดสินเชื่อตอ.อยู่ที่ 10-15% ของยอดรวมทั้งปท.
นางปฤษฐา ติราศัย ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภูมิภาค 2 เผยถึงแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในพื้นที่ภาคตะวันออก ของปี 2552 ว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากภาพรวมทางเศรษฐกิจ เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกมีการเข้ามาอยู่อาศัย และลงทุนของชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตจังหวัดระยอง รวมถึงอำเภอบ้านฉาง ที่ย่อมได้รับผลกระทบจากภาวะการเลิกจ้าง ซึ่งอาจมีผลต่อหนี้เสียของกลุ่มผู้ที่ขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ แบงก์ได้วางมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันสินเชื่อในส่วนนี้ไว้แล้ว ทั้งในเรื่องการเปิดโอกาสให้ผู้กู้ที่ถูกเลิกจ้างเข้ามาเจรจากับธนาคารเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือแม้แต่การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ
ขณะที่การป้องกันหนี้เสียในส่วนสินเชื่อใหม่ก็มีการวางแนวทางเพื่อป้องกันไม่ให้สินเชื่อในส่วนนี้สูงเกิน 1% ที่สำคัญแนวโน้มความต้องการสินเชื่อในพื้นที่แห่งนี้ ก็จะลดน้อยลงเช่นเดียวกับความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของแบงก์ต่างๆ
