เชียงราย- เทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ส่อเค้าพ่อค้าแม่ค้าขาดทุนระนาว เหตุกำลังซื้อหดหายทั้งดอกไม้ยอดฮิตประเภทกุหลาบมีราคาแพงเกินคาด โดยเฉพาะกุหลาบจากจีนส่งผลพ่อค้าแม่ค้าย่านชายแดนพากันบอยคอต ไม่ยอมขายดอกกุหลาบจากจีน ยกเว้นดอกลิลลี่ที่ราคาถูกกว่าแทน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าในช่วงเทศกาลแห่งความรัก หรือวาเลนไทน์ ในพื้นที่ จ.เชียงราย ในปีนี้พบว่าการจำหน่ายดอกไม้โดยเฉพาะดอกกุหลาบมีความซบเซากว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก โดยเฉพาะที่ตลาดศิริกรณ์ เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง ซึ่งเป็นย่านการค้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย พบว่าบรรดาร้านค้าต่างๆ มีการนำดอกกุหลาบก้านยาวหรือเกรด A-C ออกมาวางจำหน่ายน้อยมาก
ส่วนใหญ่มีการนำดอกกุหลาบขนาดเล็ก หรือประเภทตกเกรดวางจำหน่ายในราคาถูกปะปนกับช่อดอกไม้และดอกชนิดอื่นๆ แทน รวมทั้งที่น่าสนใจ คือ การจัดทำช่อดอกไม้แต่นำช็อคโกแล็ตมาทำเป็นดอกไม้แทน ซึ่งได้รับความสนในจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นอย่างมาก
ขณะที่ร้านค้าจำหน่ายตุ๊กตาต่างนำตุ๊กตาสีแดงที่เข้ากับสีสันของเทศกาลวาเลนไทน์และกุหลาบจากผ้ากำมะหยี่ออกมาจำหน่ายอย่างคึกคัก สวนกระแสตลาดกุหลาบที่ซบเซา
นางอัมพร ทองคำ เจ้าของร้านอัมพรดอกไม้ซึ่งได้รับรางวัลพ่อค้าแม่ค้าดีเด่นจากเทศบาลนครเชียงราย กล่าวว่าตลาดกุหลาบช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ของปีนี้ถือว่าแย่มาก เพราะนอกจากคนซื้อมีน้อยแล้วยังพบว่ากุหลาบ ที่บรรดาร้านค้ารับมาในราคาส่งมีราคาสูงอย่างมาก โดยตลาดที่ร้านค้าต่างๆ รับซื้อจะมาจาก อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ และ อ.แม่สอด จ.ตาก
ส่วนแปลงดอกในพื้นที่มีประปราย ซึ่งพบว่าราคาที่ส่งไปให้ร้านค้าสูงกว่าทุกปีจนไม่คุ้มค่าที่จะรับไปขายโดยดอกกุหลาบเกรดเล็กเดิมขายให้ช่อละ 9-12 ดอกราคา 100 บาท ก็ลดลงเหลือ 5 ดอกต่อราคา 100 บาท ดอกกุหลาบเกรดเอดอกละ 30 บาท เกรดบีถึงซีดอกละ 10-20 บาท เมื่อรวมๆ กับต้นทุน เช่น ค่าแช่น้ำแข็ง บรรจุหีบห่อ ประดับริบบิ้น กระดาษ ฯลฯ ก็ไม่สามารถคุ้มทุนได้
นางอัมพร กล่าวอีกว่ าบรรดาผู้ค้าส่งยังกดราคาเอากับร้านค้าและยังส่งเฉพาะดอกกุหลาบขาวไปให้อีก ทำให้พวกเราหารือกันแล้วและไม่ขอรับดอกกุหลาบเกรดสูงๆ ไปจำหน่ายที่ตลาดศิริกรณ์ในปีนี้เพื่อเป็นการตอบโต้ เนื่องจากเห็นว่าหากไปรับราคาและปริมาณดังกล่าวจะไม่คุ้มทุนและผู้ซื้อเองก็ไม่สามารถรับได้กับราคาใหม่ของปีนี้ด้วย
ขณะที่ความหวังที่จะนำดอกกุหลาบราคาถูกจากประเทศจีน ซึ่งนำเข้าทางเรือในแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ก็ปรากฎว่าปีนี้กุหลาบจากจีนก็มีราคาแพงลิ่ว โดยเกรดเอราคาดอกละกว่า 50 บาท ดังนั้นผู้ค้าจึงไม่นำเข้าและหันไปใช้ดอกลิลลี่จากจีนซึ่งในราคามัดละ 10 ดอกราคา 150 บาทแทน
ด้าน นายเอื้ออากูร ปันนำ เจ้าของร้านเกรสโรด กล่าวว่า นอกจากเรื่องราคากุหลาบแล้วยังพบว่าปีนี้ผู้บริโภคมีค่านิยมในการซื้อดอกกุหลาบลดลงอย่างมาก ทั้งๆ ที่ทุกปีจะคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.พ.และราคากุหลาบก็พุ่งสูงตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.ของปีที่ผ่านๆ มาด้วยซ้ำ ซึ่งตนเห็นว่าปัญหาเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ทำให้คนคิดมากที่จะซื้อกุหลาบไปให้ใครซักคน
ขณะที่นางต่อม เจ้าของร้านตุ๊ต๊ะฟลอริสต์ กล่าวว่าทุกปีเมื่อดอกกุหลาบภายในประเทศมีราคาสูงร้านค้าต่างๆ ก็จะนำเข้าจากประเทศจีนผ่านทางท่าเรือที่ อ.เชียงแสน ในราคาเกรดเอก้านยาว 1-1.15 เมตร ดอกละประมาณ 35 บาท แต่ปีนี้ปรากฎว่าราคาพุ่งสูงถึงกว่า 65 บาท ทำให้ร้านค้าต่างๆ ไม่นำเข้าเพราะไม่คุ้มทุน และหันไปซื้อดอกกุหลาบตกเกรดขนาดเล็กจากตลาดที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ดอกละ 1.50 บาท เมื่อนำมาตกแต่งและดูแลรักษาก็จะมีต้นทุนประมาณ 3 บาท จากนั้นจึงจำหน่ายในราคาดอกละประมาณ 8 บาท ก็ทำให้สามารถพยุงตลาดให้สามารถอยู่ได้