แม่ฮ่องสอน - 3 หน่วยงานจัดโครงการร่วมกันพัฒนาฝีมือผู้ที่จะจบการศึกษาใหม่ เพื่อรองรับตลาดแรงงานสนองนโยบายรัฐบาล
นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานนักศึกษาใหม่ เพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน และวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน จัดขึ้นที่บริเวณศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ผู้จบการศึกษาใหม่มีความพร้อมในการหางานและทำงานที่สามารถประกอบอาชีพได้ตรงกับความต้องการในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อมาตรการรัฐบาลในการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวประมาณ 100 คน
ทั้งนี้ข้อมูลการเฝ้าระวังสถานการณ์การเลิกจ้าง ของกรมาสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานระบุว่าระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2551 มีสถานประกอบการที่มีการเลิกจ้าง จำนวน 546 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง จำนวน 54,707 คน สถานประกอบการกิจการที่มีแนวโน้มการเลิกจ้าง ประมาณ 223 แห่ง ลูกจ้างที่คาดว่าจะถูกเลิกจ้าง จำนวน 104,507 คน
โดยสอดคล้องกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่คาดว่าในปี 2552 จำนวนผู้ว่างงานอาจสูงถึง 1 ล้านคน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่คาดการณ์ว่าภายในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 จะมีการปลดคนงานทั่วประเทศประมาณ 1.1 ล้านคน อย่างไรก็ตามหากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงก็จะส่งผลกระทบต่อแรงงานที่จบการศึกษาใหม่ประมาณ 3 แสนคน ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดแรงงานตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้างงานใหม่เพื่อรองรับแรงงานที่จบการศึกษาใหม่กลุ่มดังกล่าวให้ทันเวลา หรือจะต้องมีมาตรการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น
นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานนักศึกษาใหม่ เพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน และวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน จัดขึ้นที่บริเวณศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ผู้จบการศึกษาใหม่มีความพร้อมในการหางานและทำงานที่สามารถประกอบอาชีพได้ตรงกับความต้องการในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อมาตรการรัฐบาลในการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวประมาณ 100 คน
ทั้งนี้ข้อมูลการเฝ้าระวังสถานการณ์การเลิกจ้าง ของกรมาสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานระบุว่าระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2551 มีสถานประกอบการที่มีการเลิกจ้าง จำนวน 546 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง จำนวน 54,707 คน สถานประกอบการกิจการที่มีแนวโน้มการเลิกจ้าง ประมาณ 223 แห่ง ลูกจ้างที่คาดว่าจะถูกเลิกจ้าง จำนวน 104,507 คน
โดยสอดคล้องกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่คาดว่าในปี 2552 จำนวนผู้ว่างงานอาจสูงถึง 1 ล้านคน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่คาดการณ์ว่าภายในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2552 จะมีการปลดคนงานทั่วประเทศประมาณ 1.1 ล้านคน อย่างไรก็ตามหากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงก็จะส่งผลกระทบต่อแรงงานที่จบการศึกษาใหม่ประมาณ 3 แสนคน ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดแรงงานตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้างงานใหม่เพื่อรองรับแรงงานที่จบการศึกษาใหม่กลุ่มดังกล่าวให้ทันเวลา หรือจะต้องมีมาตรการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น
