บุรีรัมย์ - นายทหารยศ “นาวาโท” สังกัดกรมอู่ทหารเรือ หวังฮุบที่ดินเชิงเขาพนมรุ้งเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ ให้กรมที่ดินไปรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิ์เป็น “โฉนด” ชาวบ้านในตำบลทราบข่าวรวมตัวกว่า 1,000 คน ฮือคัดค้าน หลังชี้จุดแนวเขตตามกล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่กรมที่ดินระบุเป็นที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ให้ยกเลิกคำร้องขอรังวัดที่ดิน ชาวบ้านต่างโล่งอกสลายการชุมนุม
วันนี้ (5 ก.พ.) นายจอน ผ่องขำ กำนันตำบลตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมชาวบ้าน บ.บุหลุมปูน ม.5 และ บ.ดอนหนองแหน ม.2 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ กว่า 1,000 คน ได้รวมตัวชุมนุมประท้วง ที่บริเวณริมถนนบ้านบุหลุมปู บริเวณหลังหน่วยพัฒนาการทหารเคลื่อนที่ 52 (นพค.) เพื่อคัดค้านการรางวัดที่ดิน พร้อมทั้งมีการเปิดปราศรัยกล่าวโจมตี นาวาโท ศักดิ์ แว่นแก้ว นายทหารสังกัดกรมอู่ทหารเรือ (ทร.) กรุงเทพฯ ที่ได้นำเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน มาทำการรังวัดที่ดินบริเวณเชิงเขาพนมรุ้งด้านทิศเหนือ รวมเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมรุ้ง
โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.1(ดงใหญ่) อ.ปะคำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ร่วม 20 นาย มาคอยคุ้มกันการรังวัดด้วย
นายจอน ผ่องขำ กำนัน ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นาวาโท ศักดิ์ ได้อ้างว่าที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อที่รวมกว่า 2,500 ไร่ เป็นของตัวเอง แต่กลุ่มชาวบ้านไม่ยอม เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชุมชน ที่ชาวบ้านหวงแหนมาหลายชั่วอายุคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณที่ชุมนุมเป็นไปอย่างตึงเครียด เนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจ แต่ นาวาโท ศักดิ์ ที่อ้างเป็นเจ้าของที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่ดินไปชี้จุดแนวเขตที่ดิน ต่างไม่สนใจกลุ่มชาวบ้านที่กำลังชุมนุมคัดค้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กำลังกว่า 10 นาย มาคอยคุ้มกันอย่างเข้มงวด เกรงว่าจะเกิดความรุนแรง ท่ามกลางเสียงโจมตีและโฮ่ไล่ของชาวบ้าน อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าวเคยมีปัญหามาแล้วเมื่อปี 2549 เนื่องจาก นาวาโท ศักดิ์ แว่นแก้ว (ขณะนั้นมียศ นาวาตรี) เป็นลูกเขยของคนในตำบลตาเป๊ก ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านเป็นทุ่งนาบ้านบุหลุมปูน หลักฐานเป็น ส.ค.1 จำนวน 45 ไร่ หลังจากนั้น ได้ยื่นขอรังวัดที่ดิน เพื่อขอออกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน โดยในครั้งนั้น นาวาโท ศักดิ์ อ้างว่า ได้ซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงรวมแล้วกว่า 2,500 ไร่ และให้เจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินมารังวัด แต่ได้ถูกชาวบ้านคัดค้านห้ามทำการรังวัด จนเกือบมีเหตุรุนแรงและยกเลิกการรังวัดไป
จนกระทั่งปี 2552 นาวาโท ศักดิ์ แว่นแก้ว ยังไม่ละความพยายามยื่นความจำนงขอให้เจ้าหน้าที่มารังวัด พร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย มาคุ้มกันอีกด้วย
นายจอน ยังกล่าวเพิ่มว่า หลังชาวบ้านทราบข่าวได้พากันมารวมตัว เพื่อขอร่วมการชี้จุดแนวเขตที่ดินจำนวน 45 ไร่ ที่ นาวาโทศักดิ์ อ้างเอกสารสิทธิ ส.ค.1 ที่มีอยู่ในมือ ซึ่งจากการชี้จุดแนวเขตซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ปกครอง ปรากฏว่า จากการสำรวจแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พบว่าที่ดินจำนวน 45 ไร่ ที่นาวาโท ศักดิ์ กล่าวอ้างเป็นที่ดินของตนเอง ไม่อยู่ในสารบบตามที่กล่าวอ้าง
“การกระทำดังกล่าวของ นาวาโท ศักดิ์ ส่อเจตนาที่จะโกงเอาที่ดินป่าสงวนบริเวณเชิงเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ และเป็นที่ของป่าหากินของชาวบ้านเป็นของตัวเอง” นายจอน กล่าว
ด้าน นายสาฒยาก์ ด่านเกษมศานต์ หัวหน้างานรังวัด ฝ่ายรังวัด สำนักงานที่ดิน จ.บุรีรัมย์ สาขานางรอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกมารังวัดที่ดินตามคำร้องของผู้ร้องขอ จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศกับจุดที่เจ้าของที่ดินชี้แนวเขต ที่ดินจำนวน 45 ไร่ ซึ่งเป็น ส.ค.1 ไม่ถูกตำแหน่งกับผู้ถูกนำชี้ จึงไม่สามารถรังวัดได้ ทั้งนี้ทางที่ดินจะทำการยกเลิกคำร้องขอรังวัดที่ดินตามหลักฐานที่ปรากฏ โดยให้แกนนำชาวบ้านที่มาประท้วงไปร่วมรู้เห็นในการยกเลิกคำร้องด้วย
หลังจากกลุ่มแกนนำชาวบ้าน ได้มาร่วมรับรู้การยกเลิกคำร้องขอรังวัดที่ดินดังกล่าว ที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ชาวบ้านที่มาชุมนุมต่างโห่ร้องด้วยความดีใจและได้พากันแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา