อุดรธานี - ผู้ว่าฯ อุดรธานีเรียกตัวแทนทหาร-ตำรวจ-แกนนำพันธมิตรฯ อุดร-หัวโจกเสื้อแดงหารือป้องกันปัญหาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในวันที่พันธมิตรฯ เปิดปราศรัย 14 ก.พ.นี้ “ขวัญชัย” อ้างไม่รับประกันความปลอดภัยเพราะคุมเสื้อแดงไม่ทั่วถึง ขณะที่ผู้ว่าฯ ขอให้พันธมิตรฯ เลื่อนวันจัดกิจกรรม “เจริญ” ยันวางแผนงานไว้นานอย่างไรต้องเปิดเวทีเพื่อสร้างการเมืองใหม่
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, พล.ต.ชูรัตน์ เสน่ห์เมือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24, พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันประชุมเตรียมพร้อมการจัดเวทีคาราวานปราศรัยการเมืองใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุดรธานี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 ที่บริเวณหนองสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี โดยมีนายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร, นายอำเภอทุกอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกสถานีร่วมด้วย
โดยก่อนที่จะมีการประชุมนั้น นายขวัญชัยได้ขออ่านหนังสือที่จะยื่นส่งถึงนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ข้อความระบุในหนังสือว่า ขอให้ระงับการตั้งเวทีคอนเสิร์ตของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้ ด้วยชมรมคนรักอุดร ซึ่งเป็นชมรมที่มีความรักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้รวมกลุ่มเพื่อแสดงออกซึ่งความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีสมาชิกชมรมที่เป็นประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีจำนวน 2 แสนคน ชมรมคนรักอุดรขอแสดงเจตนารมณ์ในการแสดงออก ซึ่งการธำรงไว้ในเอกลักษณ์ของชาวอุดรธานี คือรักถิ่นฐานบ้านเกิด ประสานซึ่งความรัก ความสามัคคี เคารพในกฎหมายบ้านเมือง แต่เนื่องจากทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเคยมีเรื่องบาดหมาง ด้วยเหตุกระทบกระทั่งกันกับชมรมคนรักอุดร เมื่อปีที่ผ่านมา จะมาเปิดเวทีจัดคอนเสิร์ตขึ้นในจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552
ทางชมรมคนรักอุดรเห็นว่า การกระทำดังกล่าวจะเป็นเหตุให้สมาชิกชมรมคนรักอุดรบางส่วน ที่ยังมีความเคลือบแคลง มีความเห็นที่ไม่ตรงกันอาจจะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง เกิดความเสียหายแก่ภาพพจน์ของจังหวัดอุดรธานี หรือแม้แต่ภาพพจน์ของประเทศไทย ซึ่งกำลังก้าวเดินไปในทางที่ดีงาม
อีกทั้งการที่ชมรมคนรักอุดรไม่อาจจะควบคุมสมาชิกซึ่งมีจำนวนมากได้ทั้งหมด จึงหวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เพื่อหลักเลี่ยงเหตุการณ์รุนแรง ชมรมคนรักอุดร จึงใครขอความกรุณาจากท่าน โปรดพิจารณาระงับการดำเนินการเปิดเวทีของพันธมิตร ในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม และเพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง
นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นคนจังหวัดอุดรธานีด้วย มีความเชื่อมั่นว่าคนอุดรธานีไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นมาอีก เพราะเหตุการณ์ขัดแย้งกันที่แล้วมา ทำให้จังหวัดอุดรธานีและคนอุดรธานีเสียเกียรติภูมิไปมากแล้ว น่าที่จะถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องเรียกกลับคืนมา คนทั่วประเทศกำลังจับตามองดูคนเมืองอุดรธานีว่า ในวันที่ 14 ก.พ.2552 นี้จะสามารถเรียกเกียรติภูมิของจังหวัดและชาวอุดรธานี กลับคืนมาได้หรือไม่ โดยการที่ทั้ง 2 ฝ่าย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันทำให้เหตุการณ์ทั้งหลายมีความสงบ
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวฝากนายเจริญว่าอยากให้ทางนายเจริญ นำเอาข้อเป็นห่วงของทางจังหวัดไปปรึกษากับทางพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ว่าจะสามารถเลื่อนการจัดงานครั้งนี้ได้หรือไม่
นายเจริญ กล่าวกับที่ประชุมว่า การจัดเวทีครั้งนี้เป็นการจัดคาราวานพันธมิตรเพื่อการเมืองใหม่ ซึ่งได้มีการวางแผนการจัดงานกันมานานแล้ว และทางกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลางได้มอบหมายให้พื้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นสถานที่จัดงาน และหากว่าทางพันธมิตรอุดรธานีไม่สามารถจัดงานนี้ได้ ทางพันธมิตรฯ ส่วนกลางก็จะเดินทางจัดงานเองในวันดังกล่าว และคงไม่สามารถที่เลื่อนหรืองดการจัดงานดังกล่าวได้
ด้าน พล.ต.ชูรัตน์ กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชาของกองทัพ ได้แสดงความต้องการที่จะไม่ให้มีการแบ่งสี แต่ไม่ได้ห้ามที่ฝ่ายใดจะมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ไม่ต้องการที่จะให้เกิดการแตกแยกกันในทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะไม่ต้องการที่จะให้จังหวัดอุดรธานีเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับกล่าวว่าในส่วนตัวนั้น ต้องการที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายลดการเคลื่อนไหวที่อาจจะก่อความรุนแรงขึ้นในวันดังกล่าว
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่ารู้สึกหนักใจและเป็นกังวล และไม่อยากให้เหตุการณ์เก่าเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ในฐานะที่ตำรวจมีหน้าที่ที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง จะพยายามรักษาเหตุการณ์ทั้งหลายอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะเนื่องจากว่าจังหวัดอุดรธานี กลายเป็นจังหวัดของความขัดแย้ง และกลายเป็นจังหวัดที่ประชาชนทั่วประเทศกำลังจับตามองว่าจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นมาอีกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
จึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยกันคนละก้าว หรือหากว่าจะต้องยกมือไหว้ใครคงจะไม่เป็นการเสียเกียรติ หรือแขนกุดมือด้วนไปแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายอำนาจ ได้กล่าวว่า เพื่อป้องกันความรุนแรง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทางตำรวจได้เตรียมกำลังจำนวน 10 กองร้อย จากทุกอำเภอเข้ามารักษาความสงบ ทาง มทบ.24 ได้เตรียมกำลังทหารเอาไว้เมื่อได้รับการร้องขอการสนับสนุน นอกจากนี้แล้วฝ่ายปกครองก็ได้เรียมกำลัง อส.เอาไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, พล.ต.ชูรัตน์ เสน่ห์เมือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24, พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันประชุมเตรียมพร้อมการจัดเวทีคาราวานปราศรัยการเมืองใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุดรธานี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 ที่บริเวณหนองสาธารณหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี โดยมีนายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร, นายอำเภอทุกอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกสถานีร่วมด้วย
โดยก่อนที่จะมีการประชุมนั้น นายขวัญชัยได้ขออ่านหนังสือที่จะยื่นส่งถึงนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ข้อความระบุในหนังสือว่า ขอให้ระงับการตั้งเวทีคอนเสิร์ตของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้ ด้วยชมรมคนรักอุดร ซึ่งเป็นชมรมที่มีความรักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้รวมกลุ่มเพื่อแสดงออกซึ่งความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีสมาชิกชมรมที่เป็นประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีจำนวน 2 แสนคน ชมรมคนรักอุดรขอแสดงเจตนารมณ์ในการแสดงออก ซึ่งการธำรงไว้ในเอกลักษณ์ของชาวอุดรธานี คือรักถิ่นฐานบ้านเกิด ประสานซึ่งความรัก ความสามัคคี เคารพในกฎหมายบ้านเมือง แต่เนื่องจากทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเคยมีเรื่องบาดหมาง ด้วยเหตุกระทบกระทั่งกันกับชมรมคนรักอุดร เมื่อปีที่ผ่านมา จะมาเปิดเวทีจัดคอนเสิร์ตขึ้นในจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552
ทางชมรมคนรักอุดรเห็นว่า การกระทำดังกล่าวจะเป็นเหตุให้สมาชิกชมรมคนรักอุดรบางส่วน ที่ยังมีความเคลือบแคลง มีความเห็นที่ไม่ตรงกันอาจจะเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง เกิดความเสียหายแก่ภาพพจน์ของจังหวัดอุดรธานี หรือแม้แต่ภาพพจน์ของประเทศไทย ซึ่งกำลังก้าวเดินไปในทางที่ดีงาม
อีกทั้งการที่ชมรมคนรักอุดรไม่อาจจะควบคุมสมาชิกซึ่งมีจำนวนมากได้ทั้งหมด จึงหวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เพื่อหลักเลี่ยงเหตุการณ์รุนแรง ชมรมคนรักอุดร จึงใครขอความกรุณาจากท่าน โปรดพิจารณาระงับการดำเนินการเปิดเวทีของพันธมิตร ในวันและเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม และเพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง
นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นคนจังหวัดอุดรธานีด้วย มีความเชื่อมั่นว่าคนอุดรธานีไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นมาอีก เพราะเหตุการณ์ขัดแย้งกันที่แล้วมา ทำให้จังหวัดอุดรธานีและคนอุดรธานีเสียเกียรติภูมิไปมากแล้ว น่าที่จะถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องเรียกกลับคืนมา คนทั่วประเทศกำลังจับตามองดูคนเมืองอุดรธานีว่า ในวันที่ 14 ก.พ.2552 นี้จะสามารถเรียกเกียรติภูมิของจังหวัดและชาวอุดรธานี กลับคืนมาได้หรือไม่ โดยการที่ทั้ง 2 ฝ่าย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันทำให้เหตุการณ์ทั้งหลายมีความสงบ
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวฝากนายเจริญว่าอยากให้ทางนายเจริญ นำเอาข้อเป็นห่วงของทางจังหวัดไปปรึกษากับทางพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ว่าจะสามารถเลื่อนการจัดงานครั้งนี้ได้หรือไม่
นายเจริญ กล่าวกับที่ประชุมว่า การจัดเวทีครั้งนี้เป็นการจัดคาราวานพันธมิตรเพื่อการเมืองใหม่ ซึ่งได้มีการวางแผนการจัดงานกันมานานแล้ว และทางกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนกลางได้มอบหมายให้พื้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นสถานที่จัดงาน และหากว่าทางพันธมิตรอุดรธานีไม่สามารถจัดงานนี้ได้ ทางพันธมิตรฯ ส่วนกลางก็จะเดินทางจัดงานเองในวันดังกล่าว และคงไม่สามารถที่เลื่อนหรืองดการจัดงานดังกล่าวได้
ด้าน พล.ต.ชูรัตน์ กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชาของกองทัพ ได้แสดงความต้องการที่จะไม่ให้มีการแบ่งสี แต่ไม่ได้ห้ามที่ฝ่ายใดจะมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ไม่ต้องการที่จะให้เกิดการแตกแยกกันในทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะไม่ต้องการที่จะให้จังหวัดอุดรธานีเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับกล่าวว่าในส่วนตัวนั้น ต้องการที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายลดการเคลื่อนไหวที่อาจจะก่อความรุนแรงขึ้นในวันดังกล่าว
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่ารู้สึกหนักใจและเป็นกังวล และไม่อยากให้เหตุการณ์เก่าเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ในฐานะที่ตำรวจมีหน้าที่ที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง จะพยายามรักษาเหตุการณ์ทั้งหลายอยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะเนื่องจากว่าจังหวัดอุดรธานี กลายเป็นจังหวัดของความขัดแย้ง และกลายเป็นจังหวัดที่ประชาชนทั่วประเทศกำลังจับตามองว่าจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นมาอีกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
จึงอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยกันคนละก้าว หรือหากว่าจะต้องยกมือไหว้ใครคงจะไม่เป็นการเสียเกียรติ หรือแขนกุดมือด้วนไปแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายอำนาจ ได้กล่าวว่า เพื่อป้องกันความรุนแรง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทางตำรวจได้เตรียมกำลังจำนวน 10 กองร้อย จากทุกอำเภอเข้ามารักษาความสงบ ทาง มทบ.24 ได้เตรียมกำลังทหารเอาไว้เมื่อได้รับการร้องขอการสนับสนุน นอกจากนี้แล้วฝ่ายปกครองก็ได้เรียมกำลัง อส.เอาไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
