นอภ.ศรีราชาย้ำที่ดินข้าง ม.เกษตรฯ เป็นที่ดินสาธารณะ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอศรีราชาย้ำที่ดินข้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ หากใครอนุญาตผิดกฎหมายทันที หากต้องการตรวจสอบยื่นถูกต้อง ควรฟ้องศาลปกครองชี้ชัด

วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายฐานิศร์ น้อยเพ็ง นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการในอำเภอศรีราชา โดยมีหน่วยงานราชการ, หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

การประชุมในครั้งนี้ ทางนายอำเภอได้นำเสนอถึงปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่มีประชาชนและนักลงทุนเข้าไปบุกรุก พื้นที่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาการขอนุญาตหรือขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิต้องได้รับการรับรองจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ชี้แนวเขตและเซ็นอนุญาต แต่ขณะนี้จะต้องได้รับการรับรองจากปลัดอำเภอหรือนายอำเภอเท่านั้น โดยเฉพาะในพื้นที่แหลมฉบังและศรีราชา ตนจะรับผิดชอบเอง

นายฐานิศร์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ที่ดินที่มีปัญหา คือ ที่ดินบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ มีมีนักลงทุนได้เข้าไปปรับพื้นที่และจะขึ้นโครงการขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงที่ดินบริเวณนั้นมีชาวบ้านออกมาร้องคัดค้านมานานหลายปีแล้ว ในสมัยนายวิเชียร นวภูมิติ นายอำเภอศรีราชา

ล่าสุดจะให้ตนออกเอกสารสิทธิให้แต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมายหากไปเซ็นอนุญาตเดิมที่ดินบริเวณดังกล่าว มีหน่วยงานรัฐ เข้าไปใช้ที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยมี 1 แปลงประมาณ 30 ไร่ ที่เอกชนเข้าไปทำกินและได้ขายสิทธิที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กับนายทุนมาหลายทอดแล้ว โดยผู้ที่ถือครองที่ดินในขณะนี้ก็เป็นบุคคลมีสี ได้มายื่นให้ตนเซ็นรับรอง แต่ตนเห็นว่าไม่น่าจะออกเอกสารสิทธิจึงไม่เซ็นให้

นายฐานิศร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังวิ่งเต้นเพื่อจะขอออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว เนื่องจากได้ลงทุนทำโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ไปแล้ว และพยายามต่อสู้ให้ได้ที่ดินดังกล่าวมาให้ได้ ซึ่งตนก็ได้แนะนำนายทุนให้ไปฟ้องร้องศาลปกครองเพื่อพิสูจน์สิทธิกันต่อไป เพราะอดีตนายอำเภอคนเก่าไม่เซ็นให้ ตนจะเซ็นไปได้อย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและหากมีใครกล้าเซ็นก็จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน

“ขณะนี้หากมีชาวบ้านหรือประชาชนเข้าไปแจ้งความฟ้องร้องที่ดินบริเวณนั้นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแหลมฉบังก็จะถือว่าเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบทางกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปแจ้งความและทางอำเภอก็ไม่ต้องการเข้าไปดำเนินการในส่วนนี้ เนื่องจากเป็นคู่กรณีกันอยู่ จึงไม่ต้องการเพิ่มปัญหาในส่วนนี้ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมรับแจ้งความทันที” นายฐานิศร์ กล่าว