ศูนย์ข่าวศรีราชา - ธนาคาร ธ.ก.ส.สระแก้ว เสนอขออนุมัติวงเงินโครงการรับจำนำมันสำปะหลังเพิ่มเติมอีก 600-800 ล้านบาท
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบสถานการณ์โครงการรับจำนำผลผลิตการเกษตร ฤดูการผลิต ปี 2551/52 โดย นายพงศ์ทิวา ตีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก
นายพงศ์ทิวา กล่าวว่า ธ.ก.ส.สระแก้ว ได้รับอนุมัติวงเงินโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง จำนวน 229.6 ล้านบาท และขณะนี้ได้ยอดวงเงินรับจำนำแล้ว จำนวน 273.4 ล้านบาท โดยส่วนที่เกินนั้น ทางตนได้เสนอขออนุมัติวงเงินส่วนเกิน ไปที่คณะกรรมการส่วนกลาง เพิ่มเติมแล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องขออนุมัติวงเงินจากคณะกรรมการเพิ่มเติมอีก ประมาณ 600-800 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงนี้มียอดใบประทวน ที่รอการรับรองพื้นที่เพาะปลูกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 4,000 ใบ
จังหวัดสระแก้ว เดิมมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังเพียง 2 ล้านไร่ แต่ ปี 2551 มันสำปะหลังมีราคาดีตันละกว่า 2 พันบาท จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกร ชาวไร่ข้าวโพดหันมาปลูกมันแทน ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังจังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านตัน ดังนั้นในปี 2552 ราคามันสำปะหลังในตลาดจึงตกลงเหลือเพียงตันละ 1 พันกว่าบาท
ในขณะที่รัฐบาล อนุมัติยอดวงเงินโครงการรับจำนำมันสำปะหลังเพียงร้อยละ 10 ของปริมาณผลผลิต ถึงแม้จังหวัดสระแก้วจะมีการเปิดโรงงานผลิตเอเทอร์นอล เพื่อรับซื้อผลผลิตการเกษตรกรอีก 2 แห่ง แต่จะไม่สามารถช่วยเกษตรกรได้ในระยะเวลารวดเร็ว จึงจำเป็นต้องขอรับการอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 600-800 ล้าน
ด้าน นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนด้วยวาจาจากเกษตรกรว่า ผู้ประกอบการลานมันบางแห่งหักเงินค่าเปอร์เซ็นต์ ความชื้นหรือสิ่งเจอปนมากกว่าที่ควรจะเป็น คือร้อยละ 7-8 และต้นเดือนกุมภาพันธ์จะขอหักเพิ่มเป็นร้อยละ 10 จึงได้เดินทางออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการส่วนใหญ่หักเงินค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้นหรือสิ่งเจอปน เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบสถานการณ์โครงการรับจำนำผลผลิตการเกษตร ฤดูการผลิต ปี 2551/52 โดย นายพงศ์ทิวา ตีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก
นายพงศ์ทิวา กล่าวว่า ธ.ก.ส.สระแก้ว ได้รับอนุมัติวงเงินโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง จำนวน 229.6 ล้านบาท และขณะนี้ได้ยอดวงเงินรับจำนำแล้ว จำนวน 273.4 ล้านบาท โดยส่วนที่เกินนั้น ทางตนได้เสนอขออนุมัติวงเงินส่วนเกิน ไปที่คณะกรรมการส่วนกลาง เพิ่มเติมแล้ว แต่อย่างไรก็ตามต้องขออนุมัติวงเงินจากคณะกรรมการเพิ่มเติมอีก ประมาณ 600-800 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงนี้มียอดใบประทวน ที่รอการรับรองพื้นที่เพาะปลูกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 4,000 ใบ
จังหวัดสระแก้ว เดิมมีพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังเพียง 2 ล้านไร่ แต่ ปี 2551 มันสำปะหลังมีราคาดีตันละกว่า 2 พันบาท จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกร ชาวไร่ข้าวโพดหันมาปลูกมันแทน ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังจังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านตัน ดังนั้นในปี 2552 ราคามันสำปะหลังในตลาดจึงตกลงเหลือเพียงตันละ 1 พันกว่าบาท
ในขณะที่รัฐบาล อนุมัติยอดวงเงินโครงการรับจำนำมันสำปะหลังเพียงร้อยละ 10 ของปริมาณผลผลิต ถึงแม้จังหวัดสระแก้วจะมีการเปิดโรงงานผลิตเอเทอร์นอล เพื่อรับซื้อผลผลิตการเกษตรกรอีก 2 แห่ง แต่จะไม่สามารถช่วยเกษตรกรได้ในระยะเวลารวดเร็ว จึงจำเป็นต้องขอรับการอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมอีกประมาณ 600-800 ล้าน
ด้าน นางสาวจันทร์เพ็ญ สอนสมสุข พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนด้วยวาจาจากเกษตรกรว่า ผู้ประกอบการลานมันบางแห่งหักเงินค่าเปอร์เซ็นต์ ความชื้นหรือสิ่งเจอปนมากกว่าที่ควรจะเป็น คือร้อยละ 7-8 และต้นเดือนกุมภาพันธ์จะขอหักเพิ่มเป็นร้อยละ 10 จึงได้เดินทางออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการส่วนใหญ่หักเงินค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้นหรือสิ่งเจอปน เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
