หนองคาย - นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อโต้เปล่าทุจริตต่อหน้าที่หลังถูกชาวบ้านทวงถามความคืบหน้าของคดีต่อเจ้าหน้าที่ ชี้จังหวัดหนองคายตั้งกรรมการสอบสวนแล้วเป็นความผิดของเจ้าพนักงานในกระบวนการส่งเอกสารและถูกภาคทัณฑ์ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีชาวบ้านอำเภอท่าบ่อกว่า 30 คน นำโดยนายปราการ อินทร์รอด ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ทวงถามการดำเนินคดีกับนายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ หลังจากที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ รับไปทำต่อนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบนายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง โดยนายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องที่มีชาวบ้านร้องเรียนประเด็นการส่งประกาศประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างรางระบายน้ำ ถนนโยคี และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณตลาดท่าเสด็จ เมื่อปี 2544 ขณะนั้นตนได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเพื่อรับผิดชอบการส่งเอกสารต่างๆ ทางไปรษณีย์ ตามอำนาจหน้าที่จะมีผอ.กองคลังและปลัดเทศบาลทำหน้าที่ควบคุมแล้วรายงานต่อนายกเทศมนตรี จนกระทั่งดำเนินการประกวดราคาและก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงเกิดการร้องเรียนขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบโดยมองว่ามีการปลอมแปลงเอกสารขึ้น และได้สอบสวนตนว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ดูแลตรวจสอบอย่างไรหรือไม่ ตรวจสอบขั้นตอนว่าเจ้าหน้าที่ไปส่งเอกสารหรือไม่ หากส่งแล้วไปสะดุดตรงไหน ก็พบว่าเกิดปัญหาจากการที่เจ้าพนักงานของเทศบาลไม่ได้ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ แต่กลับมีตราประทับไปรษณีย์
สตง.จึงแนะนำให้ทางไปรษณีย์ท่าบ่อแจ้งความไว้ก่อน และทาง สตง.ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายให้ดำเนินการทางวินัยกับพนักงานเทศบาลตั้งแต่ระดับปลัด, ผอ.กองที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทำหน้าที่บกพร่อง และได้ภาคทัณฑ์ ตักเตือนพนักงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว
ส่วนตนนั้น ทาง สตง.ได้แจ้งไปถึงจังหวัดให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และเมื่อปี 2551 ผลการสอบสวนของทางจังหวัดหนองคายมีมติออกมาแล้วว่าตนไม่ผิด เพราะตนมีเอกสารการแต่งตั้งคณะกรรมการตามระเบียบ และได้รายงานการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง สตง.ก็ได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.อีกนานหลายปี จนกระทั่ง ป.ป.ช.ส่งเรื่องมายัง สภ.ท่าบ่อ เพื่อทำการสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสอบสวนเพิ่มเติม
โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกหนักใจ เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องภายในองค์กร บางทีอาจมีประเด็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากเพิ่งผ่านการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อรอบใหม่ และตนก็ได้รับความไว้วางใจให้กลับมาทำงานอีกครั้ง อาจสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วหาทางเล่นงานตนก็เป็นได้
ขณะที่ พล.ต.ต.วรวุฒิ นาสมพันธ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ได้กำชับให้ พ.ต.อ.จารุพล ยี่ตัน ผกก.สภ.ท่าบ่อ ติดตามเร่งรัดการดำเนินการคดีนี้โดยเร็ว โดยสั่งการให้ พ.ต.อ.สัมพรรณ มาหริน รองผบก.ภ.จ.หนองคาย คอยควบคุมการดำเนินการ และให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
หากมีสาเหตุที่ทำให้ล่าช้าต้องชี้แจงและขอยืดเวลาออกไปได้ โดยตำรวจมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน และเมื่อได้ความคืบหน้าอย่างไรต้องรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที
ด้าน ด.ต.ชุมพล โพธิสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำหนังสือส่งไปยังตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ให้รายงานผลการดำเนินการ ความคืบหน้าของการสอบสวนให้ทราบภายในวันที่ 2 ก.พ.2552
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมรายงานสรุปเสนอต่อนายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีชาวบ้านอำเภอท่าบ่อกว่า 30 คน นำโดยนายปราการ อินทร์รอด ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ทวงถามการดำเนินคดีกับนายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ หลังจากที่ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ รับไปทำต่อนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบนายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง โดยนายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องที่มีชาวบ้านร้องเรียนประเด็นการส่งประกาศประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างรางระบายน้ำ ถนนโยคี และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณตลาดท่าเสด็จ เมื่อปี 2544 ขณะนั้นตนได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเพื่อรับผิดชอบการส่งเอกสารต่างๆ ทางไปรษณีย์ ตามอำนาจหน้าที่จะมีผอ.กองคลังและปลัดเทศบาลทำหน้าที่ควบคุมแล้วรายงานต่อนายกเทศมนตรี จนกระทั่งดำเนินการประกวดราคาและก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงเกิดการร้องเรียนขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบโดยมองว่ามีการปลอมแปลงเอกสารขึ้น และได้สอบสวนตนว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ดูแลตรวจสอบอย่างไรหรือไม่ ตรวจสอบขั้นตอนว่าเจ้าหน้าที่ไปส่งเอกสารหรือไม่ หากส่งแล้วไปสะดุดตรงไหน ก็พบว่าเกิดปัญหาจากการที่เจ้าพนักงานของเทศบาลไม่ได้ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ แต่กลับมีตราประทับไปรษณีย์
สตง.จึงแนะนำให้ทางไปรษณีย์ท่าบ่อแจ้งความไว้ก่อน และทาง สตง.ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายให้ดำเนินการทางวินัยกับพนักงานเทศบาลตั้งแต่ระดับปลัด, ผอ.กองที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทำหน้าที่บกพร่อง และได้ภาคทัณฑ์ ตักเตือนพนักงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว
ส่วนตนนั้น ทาง สตง.ได้แจ้งไปถึงจังหวัดให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และเมื่อปี 2551 ผลการสอบสวนของทางจังหวัดหนองคายมีมติออกมาแล้วว่าตนไม่ผิด เพราะตนมีเอกสารการแต่งตั้งคณะกรรมการตามระเบียบ และได้รายงานการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง สตง.ก็ได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.อีกนานหลายปี จนกระทั่ง ป.ป.ช.ส่งเรื่องมายัง สภ.ท่าบ่อ เพื่อทำการสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสอบสวนเพิ่มเติม
โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกหนักใจ เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องภายในองค์กร บางทีอาจมีประเด็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากเพิ่งผ่านการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อรอบใหม่ และตนก็ได้รับความไว้วางใจให้กลับมาทำงานอีกครั้ง อาจสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วหาทางเล่นงานตนก็เป็นได้
ขณะที่ พล.ต.ต.วรวุฒิ นาสมพันธ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ได้กำชับให้ พ.ต.อ.จารุพล ยี่ตัน ผกก.สภ.ท่าบ่อ ติดตามเร่งรัดการดำเนินการคดีนี้โดยเร็ว โดยสั่งการให้ พ.ต.อ.สัมพรรณ มาหริน รองผบก.ภ.จ.หนองคาย คอยควบคุมการดำเนินการ และให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
หากมีสาเหตุที่ทำให้ล่าช้าต้องชี้แจงและขอยืดเวลาออกไปได้ โดยตำรวจมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน และเมื่อได้ความคืบหน้าอย่างไรต้องรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที
ด้าน ด.ต.ชุมพล โพธิสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำหนังสือส่งไปยังตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดหนองคาย ให้รายงานผลการดำเนินการ ความคืบหน้าของการสอบสวนให้ทราบภายในวันที่ 2 ก.พ.2552
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมรายงานสรุปเสนอต่อนายกวี กิตติสถาพร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายต่อไป