ชัยภูมิ - “ผบช.ภ.3” รุดมอบเงินช่วยเหลือและให้กำลังใจครอบครัว “พ.ต.ต.บุญถึง บุญจอง” สวป.สภ.บำเหน็จณรงค์ ตำรวจผู้กล้าเมืองพญาแล พลีชีพต่อสู้แก๊งค้ายาบ้า เผยปูนบำเหน็จ 7 ขั้นเงินเดือน เลื่อน 5 ชั้นยศ เป็น “พลตำรวจเอก” พร้อมเงินช่วยเหลือรวมกว่า 6 แสนบาท
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เดินทางมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว พ.ต.ต.บุญถึง บุญจอง สวป.สภ.บำเหน็จณรงค์ หัวหน้าชุดจับกุม ที่เสียชีวิตในขณะนำกำลังเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการร่วมเพื่อแสดงตัวขอตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัย ขนยาบ้ามาส่งให้กับสายล่อซื้อ ที่บ้านปะโค ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิ นำ นางธารทิพย์ บุญจอง ภรรยา และ นายธนานุวัฒน์ นายธรรมนูญ บุญจอง บุตรชายทั้ง 2 คน เข้ารับมอบ
พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 เปิดเผยหลังเกิดเหตุการณ์ ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ยังมีขวัญกำลังใจดีในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งการปฏิบัติการต่างๆ เป็นการปฏิบัติการตามยุทธวิธีของตำรวจ และได้กำชับถึงเรื่องการระมัดระวัง การปฏิบัติงานให้ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทมาโดยตลอด
ในส่วนของความดีความชอบ พ.ต.ต.บุญถึง บุญจอง สวป.สภ.บำเหน็จณรงค์ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้ทำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบเลื่อนขั้นเงินเดือน 7 ขั้น และเลื่อนยศเป็น 5 ชั้นยศ เป็น พลตำรวจเอก ส่วนบุตรชายพร้อมจะพิจารณารับเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นการทดแทน
สำหรับของเงินช่วยเหลือต่างๆ ได้เร่งดูแลสวัสดิการความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของ พ.ต.ต.บุญถึง อย่างเต็มที่ ทั้งจากกองทุนต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งตอนนี้รวมแล้วได้ประมาณ 670,000 บาท และยังมีส่วนอื่นตามมาอีก ในส่วนของตนเองวันนี้มอบให้ 50,000 บาท
ด้าน นางธารทิพย์ บุญจอง ภรรยา พ.ต.ต.บุญถึง กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และกะทันหันของครอบครัว จากนี้ไปต้องอดทน และอยู่อย่างเข้มแข็ง เพื่อลูกทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นทั้งดวงใจและความหวังของเราทั้งคู่ หลังจากเสร็จเรื่องงานพระราชทานเพลิงศพของสามีแล้ว จะพาลูกชายทั้ง 2 คน กลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเองที่ จ.อุบลราชธานี และจะส่งเสียให้ลูกคนโตที่ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6 เรียนจบรับปริญญาตรี เพื่อจะได้เข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรแทนพ่อต่อไป
ส่วนลูกชายคนเล็กที่เรียนอยู่ชั้น ม.4 ก็จะให้เขาได้เรียนเตรียมทหาร เพราะเขาหวังจะเป็นข้าราชการตำรวจเหมือนพ่อเช่นกัน
“ลูกชายทั้ง 2 คน ได้เห็นการทำงานของพ่อช่วงที่มีชีวิตอยู่ ที่ได้ทำอย่างทุ่มเท เสียสละมาโดยตลอด จึงต้องการสานเจตนารมณ์ของพ่อให้ถึงที่สุด ด้วยความรักที่ลูกชายทั้ง 2 มีให้พ่อ จึงต้องการเป็นตำรวจเหมือนอย่างพ่อด้วยเช่นกัน” นางธารทิพย์ กล่าว
