ลำปาง – ม็อบข้าวโพดลำปางฮือปิเถนนหลักเข้ากรุงเทพฯแทนทางเข้า-ออกศาลากลาง หลังเจรจาให้รัฐบาลรับเงื่อนไขเปิดจุดรับซื้อข้าวโพด ช่วยเหลือค่าขนส่งไม่เป็นผล แถมยื่นข้อเรียกร้องให้จังหวัดหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง แถมเรื่องเงียบเป็นเป่าสากทุกครั้ง ยืนยันเตรียมปิดเส้นทางอื่นๆ เพิ่มหากรัฐไม่ช่วย
หลังจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่ได้รับความเดือดร้อนและเดินทางมาร้องขอให้ทางราชการช่วยเหลือหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ นำไปสู่การตัดสินใจปิดถนนหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางเมื่อวานนี้ ล่าสุด เช้าวันนี้ (22 ม.ค.) ได้เปิดทางด้านหน้าศาลากลางแล้ว แต่ย้ายไปปิดถนนสายหลักลำปาง-เถิน ซึ่งเป็นเส้นทางลำปาง-กรุงเทพฯ แล้ว หลังเจรจาไม่เป็นผล
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรผู้ปลูกข้าวโพด ในเขตอำเภอแม่ทะ ซึ่งมีผลผลิตออกช้ากว่าที่อื่นเคยเข้ามาเรียกร้องให้จังหวัดลำปางให้การช่วยเหลือมาแล้วถึงสองครั้ง มีการประชุมร่วมกันอีกหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งจังหวัดก็รับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ
โดยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดกลุ่มนี้ได้ยื่นข้องเรียกร้องให้จังหวัดลำปางช่วยเหลือเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2551 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2552 คือให้ขยายเวลารับจำนำข้าวโพดไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมปี 2552 ให้ตั้งจุดรับจำนำข้าวโพดในจังหวัดลำปางเพราะที่ผ่านมาต้องขนไปจำนำต่างจังหวัด ทำให้เสียค่าขนส่งกิโลกรัมละ 50 สตางค์ และให้เพิ่มจำนวนข่าวโพดที่รับจำนำต่อคนจากคนละ 40 ตันเป็น 80 ตัน โดยที่ทางจังหวัดก็แจ้งว่าจะให้การช่วยเหลือ และได้บอกล่วงหน้าแล้วว่าหากไม่ได้รับคำตอบเร็วๆ ก็จะมีการปิดถนน แต่เรื่องก็เงียบหายไป
โดยในช่วงบ่ายของวานนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ให้กลุ่มผู้ชุมนุม เสนอข้อเรียกร้องมา ให้จังหวัดลำปางรับซื้อข้าวโพดในกิโลละ 7 บาท และช่วยเหลือค่าขนส่ง ค่าสีข้าวโพดกิโลกรัมละ 55 สตางค์ เปิดจุดรับซื้อข้าวโพด รวมทั้งเจรจากับเอกชนให้รับซื้อข้าวโพดที่ราคาที่ดี จากนั้นจึงได้เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมราว 20 คนเข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดลำปาง
หลังจากที่เข้าร่วมประชุมพร้อมกันและมีการยืนข้อเสนอของแต่ละฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งจังหวัดลำปางทำหนังสือบันทึกข้อตกลง ร่วมระหว่างจังหวัดลำปาง กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่ทะ 4 ข้อ ตามที่กลุ่มเกษตรกรเสนอเข้ามาคือ
1.ช่วยในการประสาน ท้องถิ่นในพื้นที่ รับซื้อกิโลกรัมละ 7 บาท 2.ช่วยค่าคนส่งและค่าสีข้าวโพดกิโลกรัมละ 55 สะตางค์ โดยกสรสนับสนุนของท้องถิ่นในพื้นที่ 3.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.ในจังหวัดลำปาง ให้ชะลอการชำระหนี้ ของเกษตรกรในกรณีที่ไม่สามารถจำหน่ายข่าวโพดได้ในขณะนี้ 4.หาจุดรับจำนำข้าวโพดได้ที่ อำเภอลี้จังหวัดลำพูน จำนวนสองแห่ง รับได้ประมาณ 5,400 ตัน(เปิดรับจากทุกจังหวัดหากที่ไหนมาก่อนได้ก่อน) โดยจะเปิดรับจำนำวันที่ 26 มกราคม 2552 และจะต้องไปขึ้นทะเบียนที่อำเภอก่อนล่วงหน้าและให้ได้คนละไม่เกิน 15 ตัน เฉลี่ยกันไป
โดยทั้ง 2 ฝ่าย ต้องประชุมหารือกันมากกว่า 2 ชั่วโมง ผลสรุปคือกลุ่มเกษตรกรไม่ยอมลงนามบันทึกข้อตกลง และยืนยันจะปิดถนนไปจนถึงวันที่มีการเปิดรับจำนำ ขณะที่ทางจังหวัดได้อธิบายว่าเป็นมาตรการของจังหวัดที่ทำได้เพียงเท่านี้ เนื่องจากจังหวัดลำปางไม่มีจุดรับจำนำข้าวโพด และเกินอำนาจในขณะนี้ และได้ชี้แจงอีกว่า ทางจังหวัดจะเรียกประชุมหน่วยงานภาครัฐเอกชนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพื่อหาทางออกร่วมกันในวันที่ 23 มกราคม 2552 อีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุด เช้าวันนี้ (22 ม.ค.) ม็อบข้าวโพดยอมสลายตัวที่บริเวณหน้าศาลากาลางจังหวัดลำปางแล้ว หลังเจรจากับจังหวัดยังไม่ประสบผลสำเร็จ และได้เคลื่อนขบวนไปยังอำเภอเกาะคาเพื่อปิดถนนสายหลักลำปาง-กรุงเทพฯ ต่อ
โดยขณะนี้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโพดข้าวเลี้ยงสัตว์ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เริ่มทยอยเข้าสมทบต่อเนื่อง จำนวนกว่า 100 คนพร้อมรถบรรทุก 10 ล้อและรถยนต์กระบะกว่า 20 คัน รวมทั้งได้นำเต็นท์มากางปิดประตูทางเข้าหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางบริเวณประตู 1 และถนนวชิราวุธดำเนิน หรือ สายลำปาง-เด่นชัย ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง เพื่อรอฟังคำตอบของทางราชการในการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้เดินทางมาเจรจา โดยขอหารือกันในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) อีกครั้ง และจะให้ทางราชการรับจำนำตามจำนวนที่รัฐบาลอนุมัติไปก่อน
แต่กลุ่มเกษตรกรก็ไม่พอใจเพราะได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าหลายครั้งแล้วแต่ทางราชการก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ และครั้งนี้ก็เช่นกันไม่มีใครรับประกันได้ว่าการที่ทางการตกลงว่าจะรับซื้อก่อนแต่ต้องเดินทางไปขายในจังหวัดอื่นจะทำได้จริงหรือไม่ เมื่อไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน กลุ่มเกษตรกรจึงตกลงกันสลายตัวจากบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง และเคลื่อนกำลังทั้งหมดไปยังอำเภอเกาะคาเพื่อปักหลักและปิดถนนสายหลักลำปาง-กรุงเทพฯ รอฟังคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง หากยังไม่มีความคืบหน้ากลุ่มเกษตรกรจะเริ่มปิดถนนสายหลักในเส้นทางอื่นๆต่อไป