ตราด - นายด่านศุลกากรคลองใหญ่เผย ค้าชายแดนปี 51 ทะลุ 16,500 ล้านบาท คาดปี 52 ถึง 18,000 ล้านบาท ขณะนำเข้าแค่ 100 ล้าน ดันเปิดนำไม้เข้า
นายประยุทธ มณีโชติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ที่นำส่งผ่านท่าเรือเอกชน 3 แห่ง และส่งทางถนนสาย 48 ในปี 2551 มีมูลค่าสูงถึง 16,500 ล้านบาท โดยมีมูลค่าน้ำสินค้าเข้าเพียง 100 ล้านบาท เครื่องดื่มที่เป็นเบียร์และเครื่อง ดื่มชูกำลังและน้ำอัดลม รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง ขณะที่สินค้านำเข้าจะเป็นอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล และหอยสาย และไม้แปรรูป
สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ได้มีผลกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่อีกทั้งในปี 2552 ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และตามสถิติในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา จะมีมูลค่าการค้าจะมีเพิ่มขึ้น 10-15% ซึ่งปีนี้อาจจะทำให้มูลค่าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่ มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 17,000 -18,000 ล้านบาท
นายประยุทธ กล่าวว่า ในส่วนช่องทางการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ จ.ตราด มีช่องทางผ่านจุดผ่านแดน ถาวรบ้านหาดเล็ก ที่ปัจจุบันเป็นหลักในการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ แต่ จ.ตราด ยังมีจุดผ่านแดนถาวรชั่วคราวที่บ้านหมื่นด่าน และบ้านมะม่วงใน อ.บ่อไร่ ที่ติดกับ อ.สำรูด จ.พระตะบอง ซึ่งมีการค้าขายในระดับพื้นที่เท่านั้น โดยชาวกัมพูชาจะเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดชายแดนใน อ.บ่อไร่ แต่การเดินทางลำบากเนื่องจากเส้นทางไม่สะดวกที่ยังไม่ได้พัฒนาราว 1.5 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หากดำเนินการพัฒนาได้จะทำให้การค้าขายได้มากขึ้น และหากสามารถนำสินค้าไปขายใน จ.พระตะบอง จะทำให้สินค้าไทยขายได้มากขึ้น ส่วนในช่องทางอื่นๆ เช่น บ้านชำราก สามารถจะพัฒนา เป็นจุดผ่านแดนการค้าได้ในอนาคต เนื่องจากเส้นทางดีและสามารถเข้าไปยัง จ.โพธิสัตได้
นายประยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับไม้แปรรูปที่พ่อค้าของจ.ตราดนำเข้ามายัง จ.ตราด ด่านศุลกากรต้องการให้มีการนำเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบนำไม้จากชายแดนไทยเข้ามา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อ จ.ตราด หากนำเข้ามาจะทำให้ไม้ของ จ.ตราด ไม่ต้องถูกลักลอบนำเข้ามาอีก
นายประยุทธ มณีโชติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ที่นำส่งผ่านท่าเรือเอกชน 3 แห่ง และส่งทางถนนสาย 48 ในปี 2551 มีมูลค่าสูงถึง 16,500 ล้านบาท โดยมีมูลค่าน้ำสินค้าเข้าเพียง 100 ล้านบาท เครื่องดื่มที่เป็นเบียร์และเครื่อง ดื่มชูกำลังและน้ำอัดลม รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง ขณะที่สินค้านำเข้าจะเป็นอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล และหอยสาย และไม้แปรรูป
สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ได้มีผลกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่อีกทั้งในปี 2552 ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และตามสถิติในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา จะมีมูลค่าการค้าจะมีเพิ่มขึ้น 10-15% ซึ่งปีนี้อาจจะทำให้มูลค่าชายแดนด้าน อ.คลองใหญ่ มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 17,000 -18,000 ล้านบาท
นายประยุทธ กล่าวว่า ในส่วนช่องทางการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ จ.ตราด มีช่องทางผ่านจุดผ่านแดน ถาวรบ้านหาดเล็ก ที่ปัจจุบันเป็นหลักในการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ แต่ จ.ตราด ยังมีจุดผ่านแดนถาวรชั่วคราวที่บ้านหมื่นด่าน และบ้านมะม่วงใน อ.บ่อไร่ ที่ติดกับ อ.สำรูด จ.พระตะบอง ซึ่งมีการค้าขายในระดับพื้นที่เท่านั้น โดยชาวกัมพูชาจะเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดชายแดนใน อ.บ่อไร่ แต่การเดินทางลำบากเนื่องจากเส้นทางไม่สะดวกที่ยังไม่ได้พัฒนาราว 1.5 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หากดำเนินการพัฒนาได้จะทำให้การค้าขายได้มากขึ้น และหากสามารถนำสินค้าไปขายใน จ.พระตะบอง จะทำให้สินค้าไทยขายได้มากขึ้น ส่วนในช่องทางอื่นๆ เช่น บ้านชำราก สามารถจะพัฒนา เป็นจุดผ่านแดนการค้าได้ในอนาคต เนื่องจากเส้นทางดีและสามารถเข้าไปยัง จ.โพธิสัตได้
นายประยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับไม้แปรรูปที่พ่อค้าของจ.ตราดนำเข้ามายัง จ.ตราด ด่านศุลกากรต้องการให้มีการนำเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบนำไม้จากชายแดนไทยเข้ามา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อ จ.ตราด หากนำเข้ามาจะทำให้ไม้ของ จ.ตราด ไม่ต้องถูกลักลอบนำเข้ามาอีก
