ตราด - 2 นายอำเภอชายแดน จังหวัดตราด ยอมรับมีการลักลอบแก๊สส่งชายแดนกัมพูชาจริง ด้านบ่อไร่ สั่งกำชับเข้มงวด ด้านอำเภอคลองใหญ่ ระบุไม่รู้ถังไหนขายไปกัมพูชา
นายณัฎฐชัย นำพูนสุขสันต์ นายอำเภอบ่อไร่ จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวระบุว่า มีการลักลอบนำแก๊สและถังแก๊สของ ปตท.ออกไปจาก จ.ตราด สู่ จ.พระตะบอง นั้นข้อเท็จจริง อ.บ่อไร่ มีจุดผ่อนปรนการค้า 2 จุด คือที่บ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ ที่เปิดตลาดค้าชายแดนสัปดาห์ละ 3 วัน และที่บ้านหมื่นด่าน ต.บ่อพลอย
โดยทั้ง 2 จุดมีฝ่ายทหารพราน, อส. และตำรวจในพื้นที่ดูแลเข้มงวดอยู่แล้ว การนำออกไปเป็นเรื่องที่ยากลำบากและเป็นไปได้ยากรวมทั้งต้องผ่านด่านตรวจของทหารพรานถึง 2-3 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง 2-3 ถัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการควบคุมไม่ให้มีการส่งออกไป อีกทั้งการนำถังแก๊สที่เป็นทรัพย์สินของ ปตท.ออกไปนอกประเทศ เป็นทรัพย์สินของ ปตท.ออกไปนอกประเทศ เป็น เรื่องที่ผิดกฎหมายทางอำเภอจึงได้ควบคุมเรื่องนี้อย่างเข้มงวด
ทางด้าน นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติมาแล้ว โดยที่ผ่านมาผู้ที่จะส่งออกแก๊สหุงต้มจะต้องเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตราที่ 7 แต่มีการลักลอบส่งออกโดยมีการบรรจุแก๊สจาก จ.ตราด, จ.จันทบุรี แล้วส่งออกไปยังกัมพูชา
โดยใช้เรือขนส่งสินค้ามุ่งเข้าสู่ จ.เกาะกง ซึ่งทางทหารนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็กได้เข้มงวดในการจับกุมมา ตลอด แต่ก็ยังมีการส่งออกอยู่เนื่องจากราคาดี เพราะจะมีกำไรจากการขาย 200-500 บาท/ถัง จากที่ซื้อใน จ.ตราด ราคา 300 บาท แล้วไปขายในเกาะกง หรือกัมพูชา 500 กว่าบาท/ถัง (15 กก.) ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการให้มีการลัก ลอบออกไปจำหน่าย
“บางครั้งเราเห็นว่ามีการขนส่งลงเรือสินค้า แต่พออยู่ในเขตไทยก็บอกว่าจะนำไปเกาะกูด เราก็ไม่สามารถ ไปจับกุมได้ นอกจากหันเรือไปทางเกาะกง ทางทหารนาวิกโยธิน 182 ก็จะเข้าไปจับกุม ซึงผมมองว่าทางราชการควรจะจำกัดปริมาณการนำมาสู่อำเภอคลองใหญ่ว่า 1 เดือนจะมีจำนวนเท่าไร หากนำมาเกิดนกว่านี้จะห้ามนำเข้าไม่เช่นนั้น แต่ละแห่งก็จะมีการนำเข้ามาแล้วอ้างว่านำมาขายใน อ.คลองใหญ่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะ ควบคุมทั้งๆ ที่อำเภอคลองใหญ่เข้มงวดในเรื่องนี้มาก”
นายณัฎฐชัย นำพูนสุขสันต์ นายอำเภอบ่อไร่ จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีข่าวระบุว่า มีการลักลอบนำแก๊สและถังแก๊สของ ปตท.ออกไปจาก จ.ตราด สู่ จ.พระตะบอง นั้นข้อเท็จจริง อ.บ่อไร่ มีจุดผ่อนปรนการค้า 2 จุด คือที่บ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ ที่เปิดตลาดค้าชายแดนสัปดาห์ละ 3 วัน และที่บ้านหมื่นด่าน ต.บ่อพลอย
โดยทั้ง 2 จุดมีฝ่ายทหารพราน, อส. และตำรวจในพื้นที่ดูแลเข้มงวดอยู่แล้ว การนำออกไปเป็นเรื่องที่ยากลำบากและเป็นไปได้ยากรวมทั้งต้องผ่านด่านตรวจของทหารพรานถึง 2-3 แห่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีบ้าง 2-3 ถัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการควบคุมไม่ให้มีการส่งออกไป อีกทั้งการนำถังแก๊สที่เป็นทรัพย์สินของ ปตท.ออกไปนอกประเทศ เป็นทรัพย์สินของ ปตท.ออกไปนอกประเทศ เป็น เรื่องที่ผิดกฎหมายทางอำเภอจึงได้ควบคุมเรื่องนี้อย่างเข้มงวด
ทางด้าน นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติมาแล้ว โดยที่ผ่านมาผู้ที่จะส่งออกแก๊สหุงต้มจะต้องเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตราที่ 7 แต่มีการลักลอบส่งออกโดยมีการบรรจุแก๊สจาก จ.ตราด, จ.จันทบุรี แล้วส่งออกไปยังกัมพูชา
โดยใช้เรือขนส่งสินค้ามุ่งเข้าสู่ จ.เกาะกง ซึ่งทางทหารนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็กได้เข้มงวดในการจับกุมมา ตลอด แต่ก็ยังมีการส่งออกอยู่เนื่องจากราคาดี เพราะจะมีกำไรจากการขาย 200-500 บาท/ถัง จากที่ซื้อใน จ.ตราด ราคา 300 บาท แล้วไปขายในเกาะกง หรือกัมพูชา 500 กว่าบาท/ถัง (15 กก.) ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการให้มีการลัก ลอบออกไปจำหน่าย
“บางครั้งเราเห็นว่ามีการขนส่งลงเรือสินค้า แต่พออยู่ในเขตไทยก็บอกว่าจะนำไปเกาะกูด เราก็ไม่สามารถ ไปจับกุมได้ นอกจากหันเรือไปทางเกาะกง ทางทหารนาวิกโยธิน 182 ก็จะเข้าไปจับกุม ซึงผมมองว่าทางราชการควรจะจำกัดปริมาณการนำมาสู่อำเภอคลองใหญ่ว่า 1 เดือนจะมีจำนวนเท่าไร หากนำมาเกิดนกว่านี้จะห้ามนำเข้าไม่เช่นนั้น แต่ละแห่งก็จะมีการนำเข้ามาแล้วอ้างว่านำมาขายใน อ.คลองใหญ่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะ ควบคุมทั้งๆ ที่อำเภอคลองใหญ่เข้มงวดในเรื่องนี้มาก”