เชียงราย – เอกชนเหนือจี้รัฐชี้ขาดโปรเจกต์สร้างสะพานข้ามโขง 4 เชื่อมถนน R3a ต่อจิ๊กซอว์ “คุน-มั่งกงลู่” หลังไทยจ้องเก็บ VATจากงบประมาณสมทบ ทำให้วงเงินงบประมาณก่อสร้างจากไทย-จีน เหลื่อมล้ำ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า จากกรณีที่รัฐบาลไทย สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ตกลงกันเพื่อจะก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และกำหนดก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จภายในปี 2554 นั้น
ล่าสุดมีกระแสว่าการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวอาจจะมีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อย โดยเฉพาะทางด้านการบริหารจัดการงบประมาณเพื่อการก่อสร้างที่มีการใช้งบประมาณร่วมระหว่างไทย-จีน หลังจากก่อนหน้านี้กรมทางหลวงของไทยได้มีการสำรวจพื้นที่และรับฟังความเห็นจากภาคประชาชนไปแล้วหลายครั้ง จนมีการกำหนดจุดก่อสร้างในฝั่งไทยที่หมู่บ้านดอนมหาวัน ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงระหว่าง อ.เชียงของ-ห้วยทราย ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการเชื่อมระหว่างถนนอาร์ 3 เอ (ไทย-สปป.ลาว-จีน) กับถนนภายในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญของ "คุน-มั่งกงลู่" หรือถนนสายคุนหมิง-กรุงเทพฯ
ดังนั้น กรณีที่มีกระแสว่าการก่อสร้างสะพานยังมีปัญหาด้านเทคนิคนั้น ทาง คสศ.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งนำเข้าพิจารณาเพื่อดำเนินการแก้ไขให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของประเทศโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เพราะหากยังมีปัญหาเรื่องงบประมาณก็คงจะไม่สามารถทำการประมูลงาน ประกวดราคาเพื่อว่าจ้างเอกชนให้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างได้นั่นเอง
แหล่งข่าววงการธุรกิจภาคเหนือ กล่วาว่า ภายหลังจากทุกฝ่ายเห็นพ้องให้มีการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงจนถึงขั้นมีการตกลงเรื่องงบประมาณก่อสร้าง ปรากฎว่าเมื่อคณะทำงานของทั้งฝ่ายไทยและจีนได้พิจารณาเกี่ยวกับรายละเอียดของงบประมาณ พบว่าในส่วนของประเทศไทยอาจจะมีการหักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากงบประมาณที่นำไปสมทบทุนเพื่อการก่อสร้างดังกล่าว
โดยเรื่องนี้คณะทำงานของบางฝ่ายเห็นว่าไม่มีความเหมาะสมเนื่องจากจะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายงบประมาณเต็ม ส่วนอีกฝ่ายเป็นลักษณะที่ออกงบประมาณไม่เต็ม จึงมีการเสนอให้คณะทำงานฝ่ายไทยได้นำไปพิจารณาเพื่องดการหัก VAT ดังกล่าวแล้ว ทำให้กระทรวงคมนาคมและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่แล้วแต่ยังไม่ได้คำตอบ
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงดังกล่าวใช้งบประมาณราว 1,600 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพาน Segmental Concrete Box Girder หรือคอนกรีตรูปกล่อง โดยออกแบบให้มีเสาตอม่อน 4 ต้นใหญ่ห่างกันต้นละ 110 เมตร ด้านบนมีผิวจราจรรวม 4 ช่องจราจรๆ ละ 3.50 เมตรโดยมีเกาะกลางที่มีความกว้าง 4.20 เมตร เพื่อรองรับระบบรางรถไฟ ขณะที่ฟุตบาทกว้างข้างละ 2.50 เมตร ปัจจุบันบริเวณคอสะพานฝั่งไทยทางกรมศุลกากรยังได้ออกแบบอาคารด่านพรมแดนแห่งใหม่ที่ทันสมัย รวมทั้งกันที่ดินเพื่อการขนส่งรองรับเอาไว้แล้วด้วย
ด้านตัวเลขการค้าชายแดนจากด่านศุลกากรเชียงของพบว่าในปี 2551 ที่ผ่านมามีนำเข้าสินค้าจากห้วยทรายมายังเชียงของมูลค่า 956,703,202.71 บาท ส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลไม้ ฯลฯ ส่วนการส่งออกมีมูลค่า 1,316,974,730.67 บาท ส่วนใหญ่เป็นยางแผ่นรมควัน สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ
ทั้งนี้ ถนนอาร์ 3 เอ สามารถใช้เดินทางระหว่างเมืองเมืองจิ่งหงหรือเชียงรุ้ง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนาน จีนตอนใต้ กับ อ.เชียงของ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1 วัน ซึ่งสามารถย่นระยะเวลาในการขนส่งทางเรือในแม่น้ำโขงซึ่งต้องใช้เวลาในการขนส่งสินค้าไปยังจีนตอนใต้ถึง 2 วัน 1 คืน