ศูนย์ข่าวศรีราชา - นิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา ลุยวิจัยถามความเห็นประชาชนต่อสถานการณ์การเมืองไทย พบว่าส่วนใหญ่อย่างให้คนไทยรักกัน
นายสิทธิชัย ธีรทีป นักศึกษาปริญญาตรี ภาควิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง “จุดยืนที่แตกต่างทางการเมืองกับอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายต่อสถานการณ์การเมืองไทย และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ” กล่าวว่า กรณีศึกษาเป็นกลุ่มประชาชน นิสิต นักศึกษาในพื้นที่ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจข่าวสารและติดตามสถานการณ์การคลื่นไหวเหตุบ้านการเมือง จากการตอบสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 3,231 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.5 สนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ร้อยล่ะ 34.8 ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (พลังเงียบ) ในขณะที่ ร้อยละ 30.1 สนับสนุนอดีตพรรคพลังประชาชน และร้อยละ 12.2 ไม่สนับสนุนรัฐบาล
นอกจากนี้ กลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาล และกลุ่มที่ขออยู่ตรงกลางเป็นพลังเงียบ ส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระดับมาก ถึงมากที่สุด
ที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ มีความเครียดต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบันระดับมากถึงมากที่สุด และเมื่อจำแนกตามจุดยืนทางการเมืองแต่ละกลุ่ม พบว่า ประชาชนที่มีจุดยืนทางการเมืองทุกกลุ่มส่วนใหญ่กำลังเครียดต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดยกลุ่มที่มีจำนวนคนที่เครียดมากที่สุดคือ กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ รองลงมาคือ กลุ่มพลังเงียบมี และกลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล ที่ระบุความเครียดต่อสถานการณ์การเมืองระดับมาก ถึง มากที่สุด
นายสิทธิชัย เผยว่า ผลวิจัยที่ค้นพบประเด็นสุดท้ายเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าคนไทยจะมีจุดยืนทางการเมืองแตกต่างกัน มีความหลากหลายของอารมณ์ความรู้สึกต่อสถานการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันมาก แต่จุดศูนย์รวมและความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยส่วนใหญ่ คือการที่อยากเห็นคนไทยรักกัน และถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและทุกกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวขณะนี้ นำความรู้สึกนึก คิดของประชาชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งอย่างแท้จริงแบบไม่มัวเมาไปกับการแย่งชิงอำนาจกันแล้ว สังคมไทยน่าจะเข้าสู่สภาวะสงบสุขและประชาชนดำเนินชีวิต ประจำวันได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว
นายสิทธิชัย ธีรทีป นักศึกษาปริญญาตรี ภาควิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง “จุดยืนที่แตกต่างทางการเมืองกับอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายต่อสถานการณ์การเมืองไทย และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ” กล่าวว่า กรณีศึกษาเป็นกลุ่มประชาชน นิสิต นักศึกษาในพื้นที่ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจข่าวสารและติดตามสถานการณ์การคลื่นไหวเหตุบ้านการเมือง จากการตอบสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 3,231 ตัวอย่าง พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.5 สนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ร้อยล่ะ 34.8 ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (พลังเงียบ) ในขณะที่ ร้อยละ 30.1 สนับสนุนอดีตพรรคพลังประชาชน และร้อยละ 12.2 ไม่สนับสนุนรัฐบาล
นอกจากนี้ กลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาล และกลุ่มที่ขออยู่ตรงกลางเป็นพลังเงียบ ส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระดับมาก ถึงมากที่สุด
ที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ มีความเครียดต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบันระดับมากถึงมากที่สุด และเมื่อจำแนกตามจุดยืนทางการเมืองแต่ละกลุ่ม พบว่า ประชาชนที่มีจุดยืนทางการเมืองทุกกลุ่มส่วนใหญ่กำลังเครียดต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดยกลุ่มที่มีจำนวนคนที่เครียดมากที่สุดคือ กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลชุดใหม่ รองลงมาคือ กลุ่มพลังเงียบมี และกลุ่มที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล ที่ระบุความเครียดต่อสถานการณ์การเมืองระดับมาก ถึง มากที่สุด
นายสิทธิชัย เผยว่า ผลวิจัยที่ค้นพบประเด็นสุดท้ายเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าคนไทยจะมีจุดยืนทางการเมืองแตกต่างกัน มีความหลากหลายของอารมณ์ความรู้สึกต่อสถานการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันมาก แต่จุดศูนย์รวมและความเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยส่วนใหญ่ คือการที่อยากเห็นคนไทยรักกัน และถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและทุกกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวขณะนี้ นำความรู้สึกนึก คิดของประชาชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งอย่างแท้จริงแบบไม่มัวเมาไปกับการแย่งชิงอำนาจกันแล้ว สังคมไทยน่าจะเข้าสู่สภาวะสงบสุขและประชาชนดำเนินชีวิต ประจำวันได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว
