พัทยาถกร่วมภาคธุรกิจแก้ปัญหาจราจรก่อนวิกฤต

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาจัดประชุมร่วมภาคธุรกิจเอกชน หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจร หลังพบสถานการณ์เริ่มวิกฤติ ก่อนกำหนดยุทธศาสตร์ทดลองใช้การเดินรถรูปแบบใหม่ หวังแก้ไขปัญหาระยะยาว

วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา ได้จัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัวแทนองค์กรภาคธุรกิจเอกชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยงานบังคับบัญชาในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง เพื่อร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่เมืองพัทยา หลังพบว่าปัจจุบันปัญหาเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน และภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยว

นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า จากความแออัดของชุมชนที่สูงขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัญหาทางสังคมโดยเฉพาะการจราจรทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในย่านธุรกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง ด้วยเหตุนี้เมืองพัทยาจึงมีแนวคิดที่จะหารือร่วมกับภาคต่างๆเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน ซึ่งการแก้ไขนี้จะต้องเป็นการบรรเทาปัญหาและไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของส่วนรวมเป็นหลัก

ขณะที่ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ แสงส่ง สว.จร.สภ.เมืองพัทยา ได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในที่ประชุม โดยหยิบยกกรณีของการวางแผนการศึกษาการเดินรถระบบใหม่บริเวณถนนสายพัทยาใต้ พัทยาสายสอง และถนนสายชายหาด ซึ่งถือว่าเป็นถนนสายหลักที่เกิดปัญหาการจราจรอย่างต่อเนื่อง โดยเสนอให้มีการจัดทำระบบเดินรถแบบใหม่ในลักษณะวันเวย์ เพื่อให้การจราจรมีความคล่องตัวมากขึ้น

ทางด้าน นายสนิท บุญมาฉาย สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวในที่ประชุมว่า ปัญหาการ จราจรของเมืองพัทยาต้นตอของปัญหาไม่ได้เกิดจากการจัดระบบการเดินรถเป็นหลัก แท้จริงเกิดจากความไม่เอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมายของผู้ปฏิบัติมากกว่า จึงเห็นควรให้เพิ่มความเข้มงวดแทนที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินรถเพราะอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนได้

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดในที่ประชุมได้มีผลสรุปร่วมกันที่จะดำเนินการจัดระบบการจราจรใหม่ โดยจะทดลองระบบการจอดรถแบบวันคู่-วันคี่ บริเวณถนนสายพัทยาใต้ ตั้งแต่แยกวัดชัยมงคล พัทยาใต้ ถึงถนนพัทยาสายสาม พร้อมขยายผิวการจราจรบริเวณซอยอรุโณทัย และการทาสีตีเส้นใหม่เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยจะเริ่มปฏิบัติใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2552 นี้ ซึ่งหากพบว่าสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้ ก็จะได้ทำประกาศพร้อมกำหนดใช้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป