อุดรธานี - แนะ ธ.ก.ส.หากเกษตรกรไม่ไถ่ถอนจำนำข้าวเปลือกตามกำหนด ให้รีบประกาศขายเพื่อเลี่ยงปัญหาขาดทุนซ้ำซาก ขณะที่ธ.ก.ส.ทยอยจ่ายเงินให้ชาวนาไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมภูมิพระบาทบัวบก ชั้น 6 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายอนันต์ ศรีพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/2552 การแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง และการแซงแทรกตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีนายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมประชุม
นายปวิต ถมยาวิทย์ เกษตรและสหกรณ์ จ.อุดรธานี กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/2552 ได้เริ่มดำเนินการรับจำนำตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา โดยในส่วนของ จ.อุดรธานี มีโรงสีที่เข้ร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 8 โรง ผลการรับจำนำถึงปัจจุบันเป็นข้าวเปลือกทั้งสิ้น 3,760 ตัน เกษตรกร 1,319 ราย รับจำนำที่ยุ้งฉาง 418 ตัน เกษตรกร 164 ราย ซึ่ง ธกส.ได้ทยอยจ่ายเงินไปแล้วรวมทั้งสิ้น 32.4 ล้านบาท
ส่วนโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง เริ่มรับจำนำเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา มีลานมันที่เข้าร่วมโครงการ 8 ราย รับจำนำไปแล้ว จำนวน 494 ตัน เกษตรกร 84 ราย ธกส.กำลังทยอยจ่ายเงิน ส่วนการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กำลังรองบประมาณที่จะอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมจากวงเงินเดิมที่ไม่พอรับจำนำ
นายปวิต กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาและอุปสรรค์ในการดำเนินงาน คือ ระยะแรกมีโรงสีเข้าร่วมโครงการน้อย เพราะยังไม่ชัดเจนในเงื่อนไขกรส่งสีแปรสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ,ข้าวเหนียวเมล็ดยาวกับข้าวเหนียวคละแยกกันได้ยากในทางปฏิบัติ เพราะเป็นการรับจำนำปีแรกที่ผ่านระบบโรงสี และการรับจำนำมันสำปะหลัง กำหนดอัตราค่าตอบแทนในการแปรสภาพจากหัวมันสดเป็นมันเส้นค่อนข้างให้ราคาต่ำเพราะใช้อัตราเดิมของ 4 ปีที่แล้ว
ด้าน นายอนันต์ ศรีพันธุ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในแต่ละปี ธกส.หลังจากรับจำนำข้าวเปลือกกับเกษตรกรแล้ว ภายใน 4 เดือนหากพ้นกำหนด ธกส.เองจะขาดทุนทุกปีไม่มากก็น้อย โดยในปีการผลิต 2551/2552 นี้ ขอให้ ธกส.รีบดำเนินการจำหน่ายหากเกษตรกรไม่มาไถ่ถอน โดยช่วงที่ราคาข้าวเปลือกดีก็ปล่อยขาย ไม่อย่างนั้นก็จะขาดทุนอยู่เหมือนเดิม
