มหาสารคาม - จนถึงขณะนี้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี จ.มหาสารคาม ยังเปิดจุดรับจำนำไม่ได้ เหตุในพื้นที่ยังไม่มีโรงสีเข้าร่วมโครงการ ล่าสุดแม้ผู้ว่าฯจะเรียกทุกฝ่ายเข้าประชุมก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม 409 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวระดับจังหวัด และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตทางการเกษตรระดับจังหวัด เพื่อเร่งหาทางเปิดจุดรับจำนำข้าวให้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการโรงสีทั้ง 8 แห่งในพื้นที่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/2552 เนื่องจากทางโรงสีไม่มีโรงอบ หากรับซื้อข้าวในปริมาณมากลานตากข้าวไม่พอ อีกทั้งในการแปรสภาพข้าว โดยหลักเกณฑ์ของการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวปี 2551/52 กำหนดให้การแปรสภาพข้าวเปลือกหอมมะลิให้แปรสภาพตามความจำเป็น และเหมาะสม ส่วนข้าวเปลือกเจ้าให้แปรสภาพทุก 15 วัน ถือว่าไม่เป็นธรรมสำหรับโรงสี
ผู้ประกอบการโรงสีพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการ หากภาครัฐยินยอมให้โรงสีแปรรูปข้าวได้โดยไม่ต้องขออนุญาตองค์การคลังสินค้า เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง จะทำให้ข้าวเปลือกเน่าเสีย เกิดเชื้อรา และเมื่อแปรสภาพข้าวเสร็จแล้ว รัฐบาลต้องมีโกดังเก็บข้าวให้ เพื่อที่ทางโรงสีจะได้หมุนเวียนพื้นที่ให้เกษตรกรนำข้าวมาจำนำได้อย่างต่อเนื่อง และไม่เป็นการผลักภาระให้โรงสี
ในฤดูการผลิตข้าวนาปี 2551/52 จังหวัดมหาสารคามมีพื้นที่ทำนาทั้งหมด 2,083,669 ไร่ แบ่งเป็นข้าวเหนียว 1,223,222 ไร่ ข้าวเจ้า 860,447 ไร่ มีพื้นที่เสียหายจากอุทกภัยจำนวน 166,600 ไร่ ประมาณการผลผลิตปี 51/52 คาดว่าจะได้ผลผลิตทั้งหมด 812,306 ตัน
ซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตข้าวที่เกษตรกรนำไปจำหน่ายและจำนำกับภาครัฐไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน