บุรีรัมย์- รองผู้ว่าฯบุรีรัมย์ นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว เพื่อรับทราบปัญหาและป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร พร้อมย้ำให้คณะกรรมกรรมการ และเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเอาผิดผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมโกงขั้นตอนรับจำนำข้าวเกษตรกร
วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ออกตรวจโรงสีข้าว ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในเขตพื้นที่ อ.พลับพลาชัย อ.ประโคนชัย และ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับทราบปัญหา และป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร
ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์มีโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิตปี 2551/2552 จำนวน 23 แห่ง ได้เปิดรับจำนำข้าวของเกษตรกรแล้ว 13 แห่ง และได้เปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่เพิ่มอีก 5 จุด เพื่ออำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้กับเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดรับจำนำมาแล้วร่วม 2 เดือน มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการเพียง 1,200 ราย ปริมาณข้าวกว่า 8,000 ตัน เท่านั้น จากที่ในปีนี้มีผลผลิตรวมกว่า 1.3 ล้านตัน
จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนมากเกษตรกรจะนำข้าวไปขายให้กับผู้ประกอบการ และโรงสี มากกว่าเข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาล โดยอ้างว่า ขั้นตอนยุ่งยาก ได้เงินล่าช้า และบางส่วนยังเก็บผลผลิตไว้เพื่อรอให้ราคาซื้อขายข้าวในท้องตลาดสูงขึ้น
นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้กำชับให้คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ ออกตรวจสอบขั้นตอนการวัดความชื้น เปอร์เซ็นต์ข้าว และตรวจตาชั่ง ของผู้ประกอบการโรงสีที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ และซ้ำเติมเกษตรกร ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเสียหายอยู่แล้ว หากพบให้ดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ออกตรวจโรงสีข้าว ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในเขตพื้นที่ อ.พลับพลาชัย อ.ประโคนชัย และ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับทราบปัญหา และป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร
ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์มีโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิตปี 2551/2552 จำนวน 23 แห่ง ได้เปิดรับจำนำข้าวของเกษตรกรแล้ว 13 แห่ง และได้เปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่เพิ่มอีก 5 จุด เพื่ออำนวยความสะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้กับเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม หลังเปิดรับจำนำมาแล้วร่วม 2 เดือน มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการเพียง 1,200 ราย ปริมาณข้าวกว่า 8,000 ตัน เท่านั้น จากที่ในปีนี้มีผลผลิตรวมกว่า 1.3 ล้านตัน
จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนมากเกษตรกรจะนำข้าวไปขายให้กับผู้ประกอบการ และโรงสี มากกว่าเข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาล โดยอ้างว่า ขั้นตอนยุ่งยาก ได้เงินล่าช้า และบางส่วนยังเก็บผลผลิตไว้เพื่อรอให้ราคาซื้อขายข้าวในท้องตลาดสูงขึ้น
นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้กำชับให้คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ ออกตรวจสอบขั้นตอนการวัดความชื้น เปอร์เซ็นต์ข้าว และตรวจตาชั่ง ของผู้ประกอบการโรงสีที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ และซ้ำเติมเกษตรกร ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเสียหายอยู่แล้ว หากพบให้ดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด
