ฉะเชิงเทรา - ตำรวจแปดริ้วเร่งกวาดล้างรวบแก๊งเงินกู้เถื่อนดอกเบี้ยโหด หลังพบมีการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจแก่ประชาชน ทั้งยึดทรัพย์สินมีค่าไปจนถึงขั้นขู่หมายเอาชีวิต หากลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายให้
วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งค์เงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด หรือเงินเวิ้ง มาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม สามารถทำการควบคุมตัวไว้ได้ ขณะออกเดินสายเก็บเงินกู้ดอกเบี้ยรายวันจากประชาชน ในเขตพื้นที่ ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 7,400 บาท และบัญชีรายชื่อลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมทั้งสัญญาเงินกู้อีกจำนวนหลายฉบับ อยู่ภายในกระเป๋าสะพาย
จากการสอบสวนทราบชื่อ คือ นายเอกชัย คล้ายบุตร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/5 ม.5 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และนายบัญชา วิเชียรรัตน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/4 ม.4 ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ซึ่งทั้งสองยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้มีหน้าที่ตะเวนออกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบ หรือ “เงินทุนรายวัน” จริง แต่ยังคงปกปิดข้อมูลที่จะสาวไปถึงตัวการ นายทุนที่ปล่อยให้กู้ โดยอ้างว่ารู้จักแต่เพียงชื่อเล่นของนายทุนว่า ชื่อ นายไก่ และนายโหน่ง แต่ไม่ทราบชื่อจริงว่าเป็นใคร พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่มีนบุรี กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ยอมรับอีกว่า การปล่อยเงินกู้รายวันที่ทำอยู่ในขณะนี้ใช้วิธีเก็บเงินแบบบวกเพิ่มจำนวนวันจากยอดเงินต้น คือ หากปล่อยให้ลูกค้ากู้ 2,000 บาท จะติดตามเก็บเงินคืนทุกวัน วันละ 100 บาท จำนวน 24 วัน เป็นอันหมดสัญญา ผู้ต้องหาทั้งสองระบุ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุเทพ กล่าวว่า การจับกุมขบวนการเงินกู้นอกระบบ เก็บดอกเบี้ยรายวัน ที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดในครั้งนี้ หลังจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเข้ามาร้องเรียนจำนวนมาก เนื่องจากหากลูกหนี้รายใดไม่มีเงินจ่ายคืนให้ หรือมีปัญหาติดขัดด้านการเงิน จนไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยรายวันให้ได้ แก๊งค์ทวงหนี้นอกระบบก็จะทำการขู่ยึดเอาทรัพย์สินติดตัว หรือของมีค่าจากลูกหนี้ไป ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า โต๊ะตู้เตียงนอน นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ไม่เว้นแม้แต่เสื้อผ้าที่มีราคาที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งยังมีการข่มขู่หมายที่จะเอาชีวิต จนบางรายถึงกับไม่กล้าอยู่อาศัยที่บ้านของตัวเอง ต้องพากันหอบลูก หอบหลานย้ายบ้านหลบหนี
จากความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเฝ้าติดตามสืบสวนเฝ้าดูพฤติกรรมจนสามารถจับกุมได้ในที่สุด แต่เชื่อว่าขบวนการเงินกู้นอกระบบยังคงมีอยู่อีกจำนวนมากหลายราย ซึ่งลักษณะการแต่งกายของแก๊งค์ทวงหนี้นอกระบบนี้ ส่วนใหญ่จะแต่งกายมิดชิด สวมเสื้อคุมใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ และใช้รถจักยานยนต์แบบชายคันใหญ่ ขับซ้อนท้ายกันออกตะเวนเดินสายเก็บเงินในพื้นที่
เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผล ไปให้ถึงตัวการนายทุนใหญ่ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เพื่อขอหมายจับกุมมาดำเนินคดี และปราบปราบให้สิ้นซากต่อไป