xs
xsm
sm
md
lg

สันกำแพงเตรียมจัดงานกระตุ้นท่องเที่ยว-ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สันกำแพงเตรียมจัดงานเทศกาลร่มบ่อสร้าง ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 16-18 ม.ค.52 หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ คาดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าร่วมคับคั่ง รายได้สะพัดหลายล้านบาท ขณะเดียวกันเผยยอดสั่งซื้อสินค้าหัตถกรรมลดลงต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ คาดปีหน้าวูบ 50%

วันนี้ (23 ธ.ค.) นายทวี เทพปัญญา รองนายกเทศมนตรีตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลต้นเปา ร่วมกับอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานเทศกาลร่มบ่อสร้างและหัตถกรรมสันกำแพง ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 16-18 ม.ค.52 ที่บ้านบ่อสร้าง ตำบลต้นเปา ซึ่งการจัดงานดังกล่าวนี้มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและมีการบรรจุอยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสันกำแพง โดยเฉพาะบ้านบ่อสร้าง ที่เป็นหมู่บ้านทำร่มที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับกิจกรรมภายในงานจะประกอบไปด้วยขบวนรถตกแต่งประดับร่ม การตกแต่งหน้าร้าน-ซุ้มประตูป่าแบบล้านนา การแสดงทางวัฒนธรรม ขบวนแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้อง การประกวดธิดาบ่อสร้าง และการเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านบ่อสร้าง รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษให้กับผู้เที่ยวชมงาน โดยพิธีเปิดงานจะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 16 ม.ค.52 ทั้งนี้ ทางฝ่ายจัดงานจะมีการจัดรถรางนำเที่ยวชมหมู่บ้านบ่อสร้างและบ้านต้นเปาบริการฟรีให้กับนักท่องเที่ยวระหว่างเวลา 09.00-15.00 น. ด้วย

ขณะเดียวกัน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลต้นเปา กล่าวถึงเป้าหมายการจัดงานครั้งนี้ว่า น่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าเที่ยวชมการจัดงานในครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 20,000 คน และทำให้มีรายได้สะพัดจากการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการของนักท่องเที่ยวภายในงานประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้ดีในระดับหนึ่งโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจซบเซาและผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยดังเช่นในปัจจุบันนี้

นอกจากนี้ นายทวี กล่าวว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาของปี 2551 นี้ มีการประเมินว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่บ้านบ่อสร้าง ประมาณ 50,000 คน มีรายได้สะพัดราว 10 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกสินค้าหัตถกรรมจากกลุ่มผู้ผลิตท้องถิ่นไปยังตลาดต่างประเทศมีมูลค่าราว 100 ล้านบาท และส่งขายตลาดในประเทศมูลค่าประมาณ 20-30 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พบว่าขณะนี้แนวโน้มมูลค่าการสั่งซื้อสินค้ามีการลดลงอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเวลานี้มีการสั่งซื้อลดลงไปแล้วราว 30-40% ขณะที่ในปีหน้าคาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อคงลดลงไปถึงประมาณ 50% แต่ทั้งนี้เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวจะไม่ทำให้ผู้ผลิตท้องถิ่นต้องเลิกกิจการแต่อย่างใด เพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจในครัวเรือนที่ทำแบบพออยู่พอกิน
กำลังโหลดความคิดเห็น