ลำปาง – “แม่เลี้ยงติ๊ก-เทอดพงษ์” ร่วมให้กำลังใจผู้สมัคร ปชป.ลงชิงเก้าอี้เลือกซ่อม ส.ส.เขต 1 ลำปาง ชนกับผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคเพื่อไทย ที่ขนเสื้อแดงโชว์พลังเต็มที่หวังยึดเก้าอี้คืน
ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดลำปาง แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ.2551 กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2552 คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง จึงกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันนี้ 22 ธันวาคม พ.ศ.2551 ถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2551 ณ ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดลำปาง ถนนพหลโยธิน ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปา เป็นสถานที่รับสมัครนั้น
บรรยากาศการรับสมัครวันแรกวันนี้ ก่อนเวลา 08.30 น. ด้านหน้าสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครเริ่มคึกคัก เนื่องจากมีบรรดาผู้สนับสนุนต่างทยอยมาให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้สนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย มีทั้งป้าย ดอกไม้ และส่วนใหญ่จะสวมเสื้อสีแดง มาให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งต่างจากผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่มีป้าย ไม่มีดอกไม้ มีแต่เพียงผู้ที่ให้การสนับสนุนมาให้กำลังใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยผู้ติดตามบอกว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากทำอะไรหวือหวา เพราะขณะนี้พรรคเป็นรัฐบาลด้วย ไม่อยากถูกมองว่าได้เปรียบในการเลือกตั้ง แต่ในบรรดาผู้ที่มาให้กำลังใจ มีนางศิริวรรณ ปราศจากศรัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก และนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมเป็นกำลังใจด้วย
นางศิริวรรณ ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กรณีที่ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในแก๊ง 4 คน ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแต่แก็งค์ 165 คน เท่านั้น ไม่มี 4 คน และการมาลำปางวันนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคเท่านั้น
หลังเวลา 08.30 น.มีผู้มาลงชื่อสมัครเพียง 2 คน คือ นายมัธยม นิภาเกษม จากพรรคประชาธิปัตย์ และนายสมโภช สายเทพ จากพรรคเพื่อไทย หลังจากที่มีการจับสลากหมายเลขแล้ว ปรากฏว่า นายสมโภช จากพรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 1 และนายมัธยม จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 2
ส่วนประธานกรรมการการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 1 นายสว่าง หมายมั่น กล่าวว่า ขณะนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้วันเวลาในการเลือกตั้งก่อนเป็นอันดับแรก แต่ก็ยืนยันความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง แม้ตอนนี้มีปัญหาบ้างเช่นเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องประสานขอกำลังจากฝ่ายปกครองในอำเภออื่นที่ไม่อยู่ในเขตเลือกตั้งมาช่วยเสริม แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร