xs
xsm
sm
md
lg

ศรัทธา..เพราะมีศรัทธาจึงได้ชัย ! นักโทษทักษิณ- วัฒนา มีส่วนร่วมจัดตั้งรัฐบาลสู้กัน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล 1 ใน 5 ผู้กล้าแกนนำ
ศูนย์ข่าวศรีราชา- ศรัทธา..เพราะมีศรัทธาจึงได้ชัย! ผู้รักชาติพันธมิตรฯตะวันออก ยินดีกับชัยชนะพร้อมๆผู้รักชาติทั่วประเทศ คืนสู่เหย้า ไม่ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ชลบุรีเสียชีวิตหนึ่ง นช.ทักษิณโทษจำคุก 2 ปีกับวัฒนาเจ้าพ่อปากน้ำโทษ10 ปีมีส่วนจัดตั้งรัฐบาล!

นับแต่ 25 พฤษภาคม 2551 ถึง 3 ธันวาคม 2551 การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งสุดท้าย ของ 5 ผู้กล้าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มี พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่นักการเมืองพันธุ์ชั่ว รัฐบาลนอมินีสัตว์นรกทรราชหน้าเหลี่ยม ปกป้องมิให้คนชั่วเข้ามากอบโกยโกงกินเงินงบประมาณของแผ่นดิน ต่อต้านมิให้มีแก้รัฐธรรมนูญ ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ถูกประกาศเจตนารมณ์ชัดแจ้ง มีจุดยืนที่มั่นคง

จึงมีพันธมิตรฯผู้รักชาติจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยนับล้านๆคน มาร่วมชุมนุมต่อสู้ ด้านคนไทยที่ทำมาหากินอยู่ต่างประเทศก็บินกลับมาร่วมกู้ชาติทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ด้วย อย่างไม่กลัวตาย พร้อมพลีชีพเพื่อแผ่นดินเกิด ส่วนที่อยู่บ้านเป็นนักรบหน้าจอ ก็ทำงานไปส่งเงินบริจาคให้กับพันธมิตรฯไป..นี่คือของจริง

ที่สุดสงครามศักดิ์สิทธิ์ชุมนุมต่อสู้ยาวนาน 193 วันก็จบลง ด้วยชัยชนะ..ของนักรบประชาชน!!

เรา..พร้อมเพื่อนพันธมิตรฯเมืองชลคนน้ำเค็มชลบุรี ทุกๆกลุ่มและพันธมิตรฯภาคตะวันออก ก็เหมือนๆกับพันธมิตรฯผู้รักชาติจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย จากภาคเหนือ จากภาคกลาง จากภาคอีสาน จากภาคใต้ และจากภาคตะวันตก ต่างก็เข้าร่วมทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน

ศรัทธา .. เพราะศรัทธานี้แหละ ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชัยคืนสู่เหย้า หลังร่วมต่อสู้ร่วมชุมนุม ด้วยวิธี สันติ อหิงสา มีวินัยบวกใจกล้าหาญ ซึ่งหาได้ยากจากพวกทำตัวเป็นกลาง ที่มีชีวิตรอความตายไปวันๆหรือไม่ก็อยู่ข้างเหลี่ยมไปนั่น ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ตามมหาวิทยาลัยบางคน ที่ฉกฉวยโอกาสให้สัมภาษณ์แบบตีกินและหรือบรรดาข้าราชการหลายคนหลายแห่ง ที่พวกทาสหน้าเหลี่ยมขึ้นเงินเดือนให้เป็นประจำ จึงทำให้มีชีวิตอยู่วิจารณ์พันธมิตรไปตามประสาคนรับราชการไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า ประชาชนผู้รักชาติเขามาชุมนุมต่อสู้เพื่อชาติอย่างไร

เพราะศรัทธา.. ต่อจุดยืนที่แน่ชัด เจตนารมณ์ที่แน่วแน่ ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง ของ 5 ผู้กล้าแกนนำพันธมิตร ทำให้พันธมิตรฯผู้รักชาติคนไทยทุกเชื้อสายทุกๆคนจากจำนวนแสน เพิ่มขึ้นจำนวนล้าน ตามวันชุมนุม ตามเสียงเป่านกหวีดหรือวันที่ทางเวทีต้องการกำลัง หรือมียุทธการดาวกระจาย ในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์ ซึ่งภาพที่ตากล้องหัวเห็ดผู้จัดการรายวันถ่ายภาพไว้ นำลงประกอบเรื่องอยู่นี้ คงไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ภาพบอกเหตุการณ์ชัดแจ้งอยู่แล้ว ว่ามีจำนวนผู้รักชาติเนืองแน่นบนท้องถนนในกรุงเทพฯ ขณะมียุทธการดาวกระจายแต่ละครั้ง มีจำนวนเท่าใด

เพราะศรัทธา ..อันแรงกล้าของเหล่าพันธมิตรฯผู้รักชาติทั่วไทย จึงทำให้ทั้งสตรีเพศแม่กู้ชาติ ทั้งบุรุษชายชาตรี ร่วมชุมนุมกู้ชาติเป็นล้านๆคน ไม่เว้นผู้สูงอายุและเด็กๆ การกู้ชาติครั้งนี้ จึงได้ชัยกลับบ้าน ช่างเป็นอะไรๆที่ทุกคนภาคภูมิใจที่ประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องบันทึกไว้ว่า...

เมื่อฝ่ายคนดีทนไม่ได้ จึงต้องลุกขึ้น ทิ้งบ้านทิ้งช่องทิ้งไร่ทิ้งนาทิ้งสวน ทิ้งงานประจำที่ทำอยู่ ทิ้งการค้าการขาย แล้วผลัดกันทำมาหากิน ออกมาช่วยขับไล่ ฝ่ายคนชั่ว โดยเฉพาะนักการเมืองน้ำเน่าเหลิงอำนาจโกงกินบ้านเมือง ทั้งบรรดานักวิชาการบางคน ผู้ปิดตัวเองอยู่กับตำรา ไม่เคยโผล่หน้าเข้าไปในที่ชุมนุม มัวแต่ดูข่าวฟังโทรทัศน์น้ำเน่าหลายช่อง ฟรีทีวี.ไม่เคยไปดูของจริงในสมรภูมิที่ชุมนุม ไม่เคยไปเห็น การชุมนุมสตรีเพศแม่กู้ชาติและเด็กๆ รวมทั้งผู้สูงอายุผู้ชาย ซึ่งต้องใส่เสื้อคลุมกันฝนฟังการปราศรัยขณะฝนตก ครั้นยามแดดร้อนจัดก็กางร่มฟังการปราศรัย อย่างไม่ย่อท้อ ไม่เคยได้รับรู้ว่าพวกสตรีเพศแม่กู้ชาติเหล่านั้น ต้องทนความลำบากยากเข็ญขนาดไหน

แน่นอน..ต้องทนเจ็บปวดยิ่งกว่าขณะคลอดลูกออกมาสักคนด้วยซ้ำไป.!!!

พวกนักวิชาการ นักการเมืองพันธุ์ทาสหน้าเหลี่ยมยังใส่ร้ายป้ายสี ยังบอกว่า พวกคนเหล่านี้ถูกว่าจ้างมา มันช่างดูหมิ่นดูแคลนสติปัญญาผู้รักชาติ ซึ่งร่วมชุมนุมฟังการปราศรัยของ 5แกนนำพันธมิตร วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ล้วนแล้วแต่มาด้วยใจ ไม่มีใครจ้าง มาด้วยเงินตัวเองยอมเสียสละทุกอย่าง

ขณะนี้ก็มีนักการเมืองบางคนที่กำลังสมสู่ผสมพันธุ์ กันอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัว มองการณ์เฉพาะหน้าทั้งให้สัมภาษณ์ว่าบ้านเมืองขณะนี้คนไทยในชาติแตกแยกกัน เพียงแค่ยกวลีนี้ขึ้นมาเพื่อจะหาเหตุเพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมีอำนาจต่อไป ก็ไม่ได้มีอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น ส่วนที่จะทำเพื่อชาติเพื่อประชาชนได้แค่ไหนหรือไม่ต้องรอการพิสูจน์กันอีกยาวนาน..

เรื่องจริงก็คือมันไม่ใช่ความแตกแยก! แต่เป็นเพราะคนไทยผู้รักชาติที่เป็นฝ่ายคนดีพวกเขาทนฝ่ายคนชั่วไม่ไหว เขาจึงต้องต่อสู้ขับไล่คนชั่วออกไปไม่ให้มามีอำนาจมาโกงกิน คนไทยที่เป็นคนดีส่วนใหญ่ ไม่ปรารถนาจะเห็น พวกนายทุนสามานย์ นักการเมืองชั่วร้าย ทาสหน้าเหลี่ยม สมคบร่วมมือกันโกงกิน ใช้เงินแผ่นดินแบบไม่ยั้งให้จงได้ รวมทั้งพวกที่ชอบอนุมัติเงินแต่ละโครงการเป็นแสนๆล้านให้ผ่านสภา เพื่อจะนำเม็ดเงินแสนๆล้านนั้นไปโปรยหว่านโดยเป็นค่าหัวรุมทึ้งเงินหลวงอย่างตระกระตระกราม โดยไม่ตระหนักถึง สถานะการเงินในท้องพระคลังที่มีอยู่

ดังนั้น..การออกมาปกป้องชุมนุมกันเป็นล้านๆคน เพื่อไม่ให้ไม่ให้คนไม่ดี(คนชั่ว)ได้มีอำนาจ ไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก แต่ประการใด เพราะดีกับชั่วอยู่ร่วมกันไม่ได้อยู่แล้ว

เพราะศรัทธา....ศรัทธาจริง ศรัทธาด้วยใจ ศรัทธาต่อการกระทำที่เปิดเผย พันธมิตรฯผู้รักชาติจึงเชื่อฟัง 5 ผู้กล้าแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งอุทิศทั้งกาย ทั้งชีวิตเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ร่วมชุมนุมมาอย่างต่อเนื่องมั่นคงดุจขุนเขา จึงได้ชัย..แม้จะมีผู้พลีชีพเสียชีวิต มีบาดเจ็บกว่า 700 คนระหว่างการชุมนุมอยู่ก็ตาม

เพราะศรัทธา…เพราะเราและพันธมิตรฯชลบุรี-ตะวันออก ศรัทธาต่อตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ผู้มีจุดยืนแน่วแน่มาก่อน เรากับพ้องเพื่อนหลายกลุ่มพันธมิตรฯจึงยอมถวายชีวิต ทำทุกอย่างทั้งเปิดเผยไม่เปิดเผย และที่สำคัญเรากับเพื่อนพ้องพันธมิตรฯชลก็ทำตามจุดยืนนั้น อย่างมั่นคง

แต่..เมื่อกระบวนการต่อสู้กับทรราชหน้าเหลี่ยมทักษิณพัฒนาขึ้น เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 4 -5 ก.พ.2549 เริ่มที่ลานพระรูปทรงม้า ฯ และเวลาต่อๆมา ชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง พวกพันธมิตรฯก็ให้ความศรัทธาต่อ 5 ผู้กล้าแกนนำให้ความนับถือ ให้ใจไปเต็มๆ

บางครั้งต้องเช่ารถกระจายเสียงออกตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆกัน เปิดเพลง “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” ของวงแฮมเมอร์ เพลงเทียนแห่งธรรมไปตลอดเวลา ก่อนจะลงไปปราศรัยตามจุดต่างๆ เพื่อเชิญชวนผู้รักชาติเข้ากรุงแจกร่วมชุมนุมกันให้มากๆ จึงจะชนะ แจกแผ่นวีซีดีวงแฮมเมอร์ หนังสือ-วีซีดีตำรวจฆ่าประชาชน

193 วันเมื่อการชุมนุมสิ้นสุดลง ชัยชนะตกเป็นของนักรบประชาชนทั่วประเทศ เป็นที่ทราบดีว่า 5 ผู้กล้าแกนนำต้องเสียสละอย่างมากมาย จึงขอบันทึกยกย่องไว้ รวมทั้งพิธีกรบนเวทีทุกท่าน เหล่าผู้ทรงคุณวุฒิทุกคนที่มาเป็นวิทยากร รวมไปถึงเหล่า ศิลปินนักร้องนักดนตรีกู้ชาติทุกๆคน ซึ่งร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เอาชีวิตเป็นเดิมพันกันทุกคน

ด้านภูมิภาคตะวันออก ขอบันทึกยกย่อง นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผู้กล้า จ.สระแก้ว ( ซึ่งช่วงหนึ่งของการต่อสู้ ทำให้เขาต้องถูกคุมขังอยู่เรือนจำกรุงเทพฯกรณีไปร่วม ชุมนุมที่บริเวณโทรทัศน์ช่อง 11 NBT. หลายวันคืน) นายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงค์รัตน์ ผู้กล้า จ.ปราจีนบุรี นายประสาน พงษ์พานิช ผู้กล้า จ.ตราด นายสุวิชาญ สุวรรณนาค ผู้กล้า จ.จันทบุรี นายมนัด เอี่ยมศรี นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้กล้า จ.ระยอง ผู้ประสานงานพันธมิตรตะวันออก

สำหรับชลบุรี เริ่มที่สตรีเพศแม่กู้ชาติ คุณศิริลักษณ์ แซ่โง้ว คุณศิริรัตน์ โพธิ์ทอง พนัสนิคม คุณจิตรานันท์ ไทยอานนท์ คุณไพจิตร บ้านสวน คุณต้อย เสม็ด คุณสายชล หมอนนาง คุณรัตนา อ่องสมบัติ คุณแอ๊ว มหากรี คุณพจนารถ แก้วผลึก พัทยา-นาเกลือ รวมถึง 11 เจ๊อรหันต์ใจสู้เกินร้อยทุกคน และ คุณเจ๋ง ศรีราชา ผู้เฉียดผ่านความเป็นความตายรอดมาได้เพราะอยู่ด้านหลังชายฉกรรจ์ที่ถูกระเบิดจากแก๊สน้ำตาขาขาด ตามภาพถ่ายในหนังสือตำรวจฆ่าประชาชน

193 วันผ่านไปแต่สำหรับผู้รักชาติพันธมิตรฯตามภูมิภาคต่างๆแล้ว ยังต้องระแวดระวังภัยที่มองไม่เห็น อันอาจมาจากคนกลไกของผู้ใช้อำนาจรัฐฯ ทำให้เราพันธมิตรหารือเกาะกลุ่มกันมากขึ้น ทั้งขณะนี้มีการประกาศของนักการเมืองพื้นที่ว่าเป็นพวกเสื้อแดงก็เริ่มขึ้นแล้วพอควรตามพื้นที่ต่างๆที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน(เดิม)

สำหรับผู้เสียชีวิตในสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ มีจำนวน 9 คน มีชาวชลบุรีเสียชีวิตอยู่ด้วย 1คน ชื่อนายเจนกิจ กลัดสาคร อายุ 48 ปีชาวอำเภอสัตหีบ วันที่ 20 พ.ย.51

ส่วนวีรสตรี วีรบุรุษที่จากไปก่อนหน้า คือน.ส.อังคณา ( โบว์ ) ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิต วันตำรวจฆ่าประชาชน7 ตุลาคม51 พร้อม พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี สารวัตร์จ๊าบ การ์ดอาสาพันธมิตรจากจ.บุรีรัมย์

นายยุทธพงษ์ เสมอภาค การ์ดอาสาพันธมิตรถูกระเบิด เอ็ม 79 เสียชีวิต 22 พ.ย.51 น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู อายุ 27 ปี ชาว ต.ทะเลน้อย อ.เมือง จ.พัทลุงถูกระเบิดเอ็ม 79 ขณะร่วมชุมนุมอย่างสงบ เสียชีวิต 30 พ.ย.51 นายรณชัย ไชยศรี อายุ29 ปี เด็กหนุ่มจากสะบ้าย้อย ต.คูหา จ.สงขลา มาร่วมชุมนุมอย่างสงบที่สนามบินดอนเมือง ถูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงลงมาจากทางด่วนเวลากลางคืนเสียชีวิต 1 ธ.ค.51

ทั้งการเสียชีวิตของนายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา บิดาของแกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชา ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมจัดรายการวิทยุชุมชน ถ่ายทอดสดภาพ-เสียงชุมนุมของพันธมิตรฯที่เชียงใหม่ ถูกอันธพาลของรัฐบาลกว่า 50 คนใช้ปืน มีด ท่อนเหล็กรุมทำร้ายเสียชีวิต 26 พ.ย.51 และการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจขณะร่วมชุมนุมของนายสมเลิศ เกษมสุข ผู้พันธมิตรผู้ประสานงานแท็กซี่พันธมิตรฯข้างทำเนียบรัฐบาล 10ต.ค.51 และมีพันธมิตรฯเสียชีวิตอีกเป็นการ์ดอาสาชื่อนางสาวศศิธร เชยโสภณ ซึ่งไปเก็บข้าวของที่ทำเนียบประชาชน ได้พลัดตกรถหัวฟาดพื้นเสียชีวิต 2 ธ.ค. 51

ส่วนที่มีคำถามกันมากว่า..จะมีการต่อสู้ยกใหม่เกิดขึ้นหรือไม่? เกิดหรือไม่เกิดก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่หากทว่าการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 193 วัน..ถูกตีกินอีกครั้ง

โดยนักการเมืองเก๋าเกม คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมือง ซึ่งยังคงเป็นนักการเมืองแค่คนฉวยโอกาส มองไม่เห็นหัวประชาชน ประเทศชาติ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ด้วยนักการเมืองเหล่านั้น ยังคงแต่มุ่งมั่น จะมีอำนาจบนตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องการคุมกลไกรัฐ ต่อรองที่จะไปคุมกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ที่มีงบประมาณมากๆ หรือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ปกปิดเรื่องอื้อฉาวที่ตนเองกับเครือญาติและพรรคพวกได้ทำเอาไว้

ครั้นเมื่ออยู่ในสภาก็แค่อภิปรายด่าทอกันไปมาทำท่าจะเอาเป็นเอาตาย ที่สุดก็เกี๊ยเซี๊ยะกันเช่นเดิม จูบปากกัน ไปสุมหัวหาอะไรที่แพงๆกินกัน ดื่มไวน์ขวดละเป็นหมื่น หูฉลามโต๊ะละ ห้าหมื่นบาททำนองนั้น ในขณะที่ประชาชนต้องทนกับการกินข้าวแกงและก๋วยเตี๋ยวราคา 30บาทต่อจานต่อชาม

เล่นละครตบตาหลอกชาวบ้านเหมือนที่ผ่านๆมา ซึ่งประชาชนเห็นตำตากันมานานนักแล้ว ซึ่งประชาชนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกันไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าหากนักการเมืองยังไม่ปรับตัว การต่อต้านครั้งหน้า ถ้าจะมีขึ้นก็จะมีความหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพราะเรื่องที่ประชาชนคนไทย น้อยใจบรรดาทหารหาญหลักของชาติที่พวกเขาให้ความศรัทธา ยังมีอยู่เป็นอันมากและความน้อยอกน้อยใจนี้จะเปลี่ยนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มากเกินความคาดคิดของใครๆ ซึ่งไม่อาจจะคาดการณ์ล่วงหน้าได้

ช่างเป็นเรื่องที่พูดไม่ออกบอกใครไม่ได้จริงๆ..เมื่อมีข่าวนำเสนอตามสื่อและหน้านสพ.ทั่วๆไปจากปากคำของเลขาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เจ้าของกิจการคิงเพาเวอร์ (อันอื้อฉาวจากสนามบินสุวรรณภูมิ) มีส่วนในการดึง ส.ส.กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ให้เข้ามาอยู่ในส่วนร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทั้งมีข่าวที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า ได้มีการต่อสายพูดจากับ เจ้าพ่อปากน้ำนายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 10 ปี คดีทุจริตที่ดินคลองด่าน หลบหนีไปล่วงหน้าไม่มาฟังคำพิพากษาไปอยู่ที่บ่อนปอยเปตเขมร

แต่เดิมลงทุนลงหุ้นกับนักธุรกิจใหญ่พัด สุลาภา ภายหลังวัฒนาซื้อมาเป็นของตัวเองทั้งหมดชื่อบ่อนพนันแกรนด์ไดมอนด์ นายวัฒนา เป็นนายทุนของพรรคการเมืองชื่อพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งมีนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรค เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นี่..จึงเป็นบทบาทข้ามประเทศ ของนายทุนพรรคการเมืองนักโทษหลบหนีคดี ซึ่งประชาชนผู้รักชาติต้องจับตามองกันต่อไป

ทางด้านนักโทษชายอดีตนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2ปี คดีที่ดินและหลบหนีโทษจำคุกอยู่ ก็เป็นข่าวมาปักหลักอยู่ประเทศเขมร แต่จะอยู่กลางใจเมืองเขมรหรืออยู่ที่เกาะกงหรือลงเรือยอชต์ บัญชาการหรือไม่ก็ตาม ก็มีสื่อหลายสื่อนำเสนอข่าวตรงกัน คือ มีการต่อสายโทรศัพท์มาล็อบบี้บรรดาส.ส.พลังประชาชนเดิมให้กลับมาเกื้อหนุนกันจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ให้จงได้ ทั้งคนของพรรคก็ยอมรับว่ามีการติดต่อกัน

นี่..เป็นผู้หลบหนีโทษจำคุก แต่กลับเข้ามามีบทบาทจัดตั้งรัฐบาลแข่งขันกัน แล้วมีคำถามว่าผู้รักษากฎหมาย ผู้รักษาความมั่นคงของประเทศหายไปไหนกันหมด.. อย่างนี้แล้ว เมืองไทยของเราจะเหลืออะไร !?

นี่เป็นคือการเมืองเก่า..ไม่ใช่การเมืองใหม่แน่แท้เทียว ประวัติศาสตร์จะต้องบันทึกเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ มีนายกรัฐมนตรีมาจากหัวหน้าพรรคและหรือบรรดาทาสทักษิณ จัดตั้งรัฐบาลแข่งขึ้นมา รัฐบาลทั้ง 2 นี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนขึ้นมาบริหารประเทศก็ตาม อย่างน้อยก็มีนักโทษหลบหนีคดี หนีโทษจำคุกต้องคำพิพากษาศาล 2 คน ได้มีส่วนจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศ!!

บ้านเมืองของเราทำได้แค่นี้เท่านั้นหรือไร..นี่เป็นคำถามของปวงชนชาวไทยที่กำลังโหยหา คำตอบให้กับตัวเอง และยังหาคำตอบไม่ได้..ใครจะมีคำตอบให้ เพื่อเมืองไทยเราจะได้เดินทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้บ้าง...

แต่ถึงอย่างไรสงครามศักดิ์สิทธิ์การร่วมชุมนุมของคนไทยรักชาติฝ่ายที่เป็นคนดีมีมากกว่าล้านคนนั้น ได้ต่อสู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะเป็นของนักรบประชาชนทั้งหญิงและชาย ซึ่งมาจากหมู่บ้าน มาจากตำบล มาจากอำเภอ มาจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย บทบันทึกพันธมิตรก็มาถึงบทอำลาจากกันไปก่อน ส่วนจะมีบทบันทึกพันธมิตรอีกหรือไม่ ตอบยาก!

เพราะศรัทธา..ศรัทธาคำๆเดียวนี้แหละ หากผู้ใดครองใจได้ศรัทธา ได้ความยอมรับนับถือ ได้ใจไปจากประชาชนคนไทยผู้รักชาติ ก็ชนะไปแล้วโดยไม่ต้องรบ ไม่ต้องทำสงคราม แต่ถึงต้องทำสงครามก็ชนะ!

ศรัทธา... ศรัทธา….!!
พลตรีจำลอง ศรีเมืองวันนำทัพยึดทำเนียบรัฐบาลในสงคราม 9 ทัพ
พันธมิตรฯห้วยกระเจาร่วมชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์
 ผู้รักชาติจากซอยมาลัยทองชลบุรี ร่วมกู้ชาติ
นี่คือผู้รักชาติที่ศรัทธาต่อ 5 ผู้กล้าแกนนำร่วมสู้จนได้ชัยชนะ
นี่คือสตรีแกร่งใจเพชรจากศรีราชา ปราจีนบุรีและตรังและทุกภูมิภาคมากู้ชาติ
พันธมิตรบ้านบึงกู้ชาติ ได้ชัยจึงคืนสู่เหย้า
ภาพนี้ปี2549 ครั้งไล่ทรราชทักษิณเดินไปล้อมทำเนียบฯ
 พันธมิตรฯมาไล่ทักษิณทรราชปี 2549
ตร.นอกเครื่องแบบสกัดพันธมิตรฯชลบุรี แกล้งตรวจค้นรถเพื่อถ่วงเวลา
นี่คือสิ่งที่คุณสนธิ-พันธมิตรฯและพวกเราได้รับจากพวกกลไกรัฐฯทาสทรราชหน้าเหลี่ยม
เหลี่ยมเอ๊ย..ทำไมมือหัก!
มวลชลผู้รักชาติพันธมิตรฯนับล้าน.เต็มท้องถนนกรุงเทพฯฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น