ชาวนาบุรีรัมย์แห่นำข้าวขายโรงสี – เมินจำนำรัฐบาลเหตุยุ่งยากได้เงินช้า

บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์แห่นำข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสี และผู้ประกอบการมากกว่าเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล เหตุขั้นตอนยุ่งยากได้เงินล่าช้า ขณะที่เกษตรกรบางส่วนกักตุนข้าวไว้ในยุ้ง เพื่อชะลอราคาข้าวให้สูงขึ้นค่อยจะนำข้าวออกมาจำหน่าย

วันนี้ ( 26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวนา จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะอำเภอสตึก ได้พากันนำข้าวเปลือกไปขายให้กับโรงสีข้าวซึ่งมีอยู่แห่งเดียวของอ.สตึก เป็นจำนวนมากวันละกว่า 300 ตัน โดยไม่สนใจนำข้าวเปลือกไปเข้าร่วมโครงการจำนำของรัฐบาล หลังเปิดรับจำนำมานานร่วมเดือนมีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการเปิดรับจำนำแล้ว 12 แห่ง แต่มีเกษตรกรนำข้าวไปจำนำเพียง 103 ราย ปริมาณข้าว 543 ตัน และจนถึงขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรเพียง 572 รายเท่านั้น จากที่มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้งจังหวัดฯ มากกว่า 1 แสนราย

โดยเกษตรกรที่นำข้าวเลือกไปขายให้กับโรงสีและผู้ประกอบการโดยไม่นำเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลอกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ของรัฐบาล ระบุว่า สาเหตุที่ไม่นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการจำนำ เพราะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและได้รับเงินล่าช้า ถึงแม้ราคาจำนำจะสูงถึงตันละ 15,000 บาท ราคาขายในท้องตลาดมีราคาตันละกว่า 12,000 บาท ในอัตราความชื้นและเปอร์เซ็นต์ต้นข้าวเท่ากันก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรบางส่วนที่ชะลอการนำข้าวออกมาขายและจำนำ เพราะมีความคาดหวังว่าปีนี้ราคาข้าวจะสูงเท่ากับปีที่ผ่านมาถึงตันละกว่า 20,000 บาท

ด้าน นายสุทิน อึ้งพัฒนากิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่โรงสีไฟสหพัฒนา อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ กับโรงสีตนแต่อย่างใด ส่วนมากจะนำข้าวมาขายเฉลี่ยวันละกว่า 200 ราย เพราะราคาซื้อขายไม่แตกต่างกับราคาจำนำมากนัก อีกทั้งชาวบ้านยังคาดว่าราคาข้าวในปีนี้จะสูงเท่ากับปีที่ผ่านมา จึงมีการชะลอนำข้าวออกมาขายและจำนำ