อุบลราชธานี-นร.อนุบาลเคราะห์ร้ายระหว่างยืนรอขึ้นรถกลับบ้านกับบิดา ถูกประตูเหล็กหน้าโรงเรียนที่ชำรุดพังลงทับอย่างจัง ทำให้มีเลือดออกในสมองไม่หยุดสุดที่แพทย์จะช่วยได้ทัน หลังเกิดเหตุโรงเรียนประกาศรับผิดชอบเต็มที่ พร้อมสั่งรื้อประตูเก่าทิ้งทั้งหมด เพื่อกันเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้( 20 พ.ย.) พ.ต.ท.วีระพันธ์ นาคสุข สารวัตรเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุประตูเหล็กหน้าโรงเรียนเทศบาลหนองบัว ถ.ธรรมวิถี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ล้มลงมาทับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลให้ไปสอบสวนสาเหตุด้วย
เมื่อไปถึงพบประตูเหล็กดัดยาว 6 เมตร สูง 2.5 เมตร น้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของรั้วโรงเรียนล้มคว่ำหลุดออกจากโครงเหล็กที่เป็นแบบรางเลื่อนใช้ล้อบังคับในการเปิดปิดประตู และที่พื้นถนนทางออกของประตูโรงเรียนมีคราบเลือดของเด็กนักเรียนเคราะห์ร้ายทราบชื่อต่อมาภายหลังว่า ด.ช.ปฏิวัติ ทุมมา อายุ 3 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล1/3 หลังเกิดเหตุบิดาของเด็กและพลเมืองดีได้นำตัวส่งให้แพทย์ช่วยชีวิตที่โรงพยาบาลราชเวชใกล้โรงเรียนเกิดเหตุ
จากการสอบสวน น.ส.สกุลตลา แก้วปัญญา ครูเวรที่อยู่ให้บริการรับส่งนักเรียนในจุดเกิดเหตุทราบว่า ปกติโรงเรียนจะเปิดประตูเหล็กด้านหน้าที่มี 2 บาน ให้เด็กนักเรียนเดินเข้าออกเพียงด้านเดียว ส่วนประตูที่ล้มทับเด็กจะปิดเอาไว้ ระหว่างที่นายจักรี ทุมมา บิดาของ ด.ช.ปฏิวัติ เดินทางมารับบุตรชายจากห้องเรียน และเดินจูงบุตรชายออกจากประตู เพื่อจะไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดไว้หน้าประตูที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าขณะนายจักรีขึ้นนั่งคร่อมบนรถ เพื่อติดเครื่องยนต์ โดย ด.ช.ปฏิวัติยืนอยู่ข้างรถ
ประตูมรณะก็ได้ล้มครืนลงมาทับบริเวณศรีษะอย่างแรง ทำให้มีเลือดออกจากหูปากจมูก ส่วน น.ส.สกุลตลาที่ยืนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุถูกแรงกระแทกของประตูที่ล้มลงเล็กน้อย
ส่วน ด.ช.ปฏิวัติหลังบิดาและพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลในสภาพโชกเลือด มีเลือดไหลออกในสมองจำนวนมาก ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้เสียชีวิตท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้องที่รุดมาดูอาการ
ต่อมานางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้รุดมาเยี่ยมพูดคุยกับนางชัชชา สำพะวงศ์ อายุ 23 ปี มารดาของเด็กเคราะห์ร้าย โดยระบุว่าทางโรงเรียนจะมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้ครอบครัวจำนวน 20,000 บาท และจะประสานให้บริษัทสยามซิตี้ที่รับทำประกันอุบัติเหตุจ่ายสินไหมทดแทนให้อีกจำนวน 50,000 บาท
สำหรับประตูที่เกิดเหตุอยู่ในสภาพไม่แข็งแรง ก็จะทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดใจกับเด็กนักเรียนขึ้นอีก
ด้านนายสุขนิตย์ โสทะรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเกิดเหตุกล่าวว่า ประตูที่ล้มทับนักเรียนครั้งนี้ ได้รับการซ่อมบำรุงเมื่อก่อนเปิดเทอมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรง ทำให้เกิดเหตุสุดวิสัยล้มมาทับเด็กนักเรียนจนเสียชีวิต ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะให้ช่างมารื้อประตูออก แล้วเปลี่ยนเป็นประตูแบบบานพับแทน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก
ด้านนางชัชชา ระบุว่าเบื้องต้นจะนำศพบุตรชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักเลขที่ 38 หมู่ 11 บ้านหัวดูน ต.ขามใหญ่ อ.เมือง และยังไม่กำหนดการฌาปนกิจ เนื่องจากต้องปรึกษากับญาติพี่น้องรวมทั้งบิดาของเด็กที่อยู่ในอาการเศร้าโศกอย่างหนักด้วย