ตร.โคราชรวบแก๊งโจ๋ปล้นฆ่าโชกโชน-แหกสถานพินิจยิงคู่อริดับ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจโคราชรวบแก๊งโจ๋ก่ออาชญากรรม ปล้น-ฆ่าโชกโชน ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมอาวุธปืน เผยเพิ่งก่อเหตุขุดรูใต้กำแพงหลบหนีสถานพินิจ ก่อนไปก่อเหตุยิงคู่อริดับในงานลอยกระทง แล้วปล้นรถ จยย. 2 คัน หลบหนี แต่ไปไม่รอด ตร.รวบยกแก๊ง ด้านรองผู้การฯ เผย วัยรุ่นเมืองใหญ่ ตจว.มีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้น และให้แฟนสาวขายตัวหาเงินใช้ชีวิตร่วมกันในหอพัก

วันนี้ (20 พ.ย.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.)นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งวัยรุ่นก่อคดีอาชญากรรมโชกโชน ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายภาคภูมิ หรือ โบ้ ศรีวงศ์ราช อายุ 18 ปี, นายทัศกรณ์ หรือ ทราย เที่ยงกลาง อายุ 22 ปี ชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ นายสมบัติ หรือ ติ่ง มาลาทอง อายุ 18 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืนลูกซองสั้นจำนวน 1 กระบอก และ รถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาอีกจำนวน 2 คัน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คน คือ นายภาคภูมิ และ นายสมบัติ เพิ่งก่อเหตุขุดอุโมงค์ใต้กำแพงหลบหนีออกจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ไปเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาใช้อาวุธมีดแทง นายเกียรติศักดิ์ ถึงแก่ความตาย เดือน ก.พ.2551 และถูกจับกุมส่งดำเนินคดีที่ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนลูกซองยิง นายประเสริฐ หรือ ดุ่ย สัมมาวงศ์ ขณะมาเที่ยวงานลอยกระทงในวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ทางเทศบาลเมืองปากช่องจัดขึ้นเสียชีวิต แล้วหลบหนีไปก่อเหตุปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ในท้องที่ สภ.หนองสาหร่าย จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีสะเทือนใจ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนแต่ฆ่าผู้อื่นมาถึง 2 รายแล้ว เพียงแค่ไม่ชอบหน้า และทะเลาะวิวาทกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนั้น ยังพบว่า ปัจจุบันวัยรุ่นในต่างจังหวัดโดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่าง จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และมักอยู่ร่วมกันกับแฟนสาวตามหอพักต่างๆ โดยผู้ปกครองไม่รับรู้ แล้วหาเงินเพื่อใช้ชีวิตร่วมกันด้วยการให้แฟนสาวขายบริการทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ฉะนั้น จึงอยากฝากเตือนผู้ปกครองให้ใส่ใจดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น