xs
xsm
sm
md
lg

สมาชิกสหกรณ์โวยกรรมการทำข้าวหายจากสต๊อกกว่า 5 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - สมาชิกสหกรณ์ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี โวย กก.สหกรณ์การเกษตรทำข้าวเปลือกล่องหนมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ส่วนสหกรณ์จังหวัดลงพื้นที่แจงข้าวไม่หาย แต่เป็นข้าวไม่มีคุณภาพตามสัญญากับ อคส. ทำให้ข้าวเสื่อมมูลค่าเอง แต่ยอมรับมีการทุจริตเงินขายน้ำมันของสหกรณ์จริง ขณะนี้จับตัวผู้ยักยอกเงินกว่าครึ่งล้านให้ศาลตันสินแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 พ.ย.) นายชัยชนะ สมพร อายุ 45 ปี ได้เป็นตัวแทนนำสมาชิกสหกรณ์การเกษตร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ประมาณ 200 คนรวมตัวประท้วงที่หน้าที่ทำการสหกรณ์การเกษตร ตั้งอยู่เลขที่ 281 หมู่ 7 ถ.อุบล-ตระการพืชผล ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล เพื่อประท้วงกรณีเกิดการทุจริตในการบริหารสหกรณ์ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหาย

โดยยื่นข้อเรียกร้องรวม 3 ข้อ คือ 1.ให้ตรวจสอบกรณีข้าวเปลือกของสหกรณ์ที่ได้รับจากการรับจำนำข้าวระหว่างฤดูกาลผลิตตั้งแต่ปี 2548-2550 ซึ่งหายไปจากยุงเก็บข้าวเปลือกรวม 470 ตัน คิดเป็นมูลค่า 5.6 ล้านบาทเศษ 2.ให้ตรวจสอบการทุจริตการบริหารปั๊มน้ำมันของสหกรณ์ที่มีเงินหายไปกว่า 5.5 แสนบาท และข้อสุดท้ายให้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 ให้สมาชิกของสหกรณ์ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 7,735 ราย

ต่อมานายเดชา เกษมวนานิมิต สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาเจรจาต่อผู้ชุมนุมและชี้แจงว่า สำหรับคณะกรรมการที่บริหารสหกรณ์ชุดปัจจุบันไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตตามที่ผู้ประท้วงกล่าวหา เพราะเข้ามาทำงานได้เพียง 2 เดือน ส่วนกรณีข้อสงสัยเรื่องข้าวเปลือกที่ได้รับจากการจำนำข้าวหายไป 470 ตัน ความจริงไม่ได้เกิดจากทุจริตยักยอก

แต่เนื่องจากตามข้อตกลงกับทาง อคส.คือ น้ำหนักของข้าวเปลือกที่สหกรณ์รับจำนำไว้ต้องมีน้ำหนักข้าวไม่น้อยกว่า 42% เพราะเมื่อนำข้าวเปลือกมาสีแล้วก็จะได้น้ำหนักข้าว 535 กิโลกรัมต่อตัน

สหกรณ์จังหวัดกล่าวชี้แจงต่อว่า แต่เนื่องจากข้าวที่รับจำนำจากสมาชิกไม่ได้คุณภาพ เมื่อทำการสีแล้วข้าวมีน้ำหนักเหลือเพียง 480 กิโลกรัมต่อตัน เพื่อส่งมอบข้าวตามข้อตกลงที่สหกรณ์มีกับ อคส.จึงต้องนำข้าวเปลือกมาสีเพิ่มให้ได้น้ำหนักตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ปริมาณข้าวเปลือกเสื่อมมูลค่าไป 470 ตัน กรณีนี้จึงไม่ใช่การทุจริต แต่สำหรับการบริหารปั๊มน้ำมันของสหกรณ์มีการยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัวจำนวน 5.5 แสนบาท ซึ่งสหกรณ์การเกษตรตระการพืชผลเป็นโจทก์แจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดการปั๊มน้ำมันที่ได้ยักยอกเงินไปแล้ว และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

สำหรับเงินปันผลร้อยละ 10 ของมูลค่าหุ้นที่สมาชิกถืออยู่ และไม่ได้รับการปันผลในปี 2551 เพราะสหกรณ์ประสบการขาดทุนจากการดำเนินงานดังกล่าวไปกว่า 91 ล้านบาท จึงไม่มีกำไรที่จะนำเงินมาปันผลให้ได้ การชี้แจงของนายเดชาทำให้สมาชิกบางส่วนเข้าใจ และบางส่วนยังไม่ยอม แต่จะไปหารือกันก่อนมารวมตัวประท้วงเพื่อให้ได้ความชัดเจนอีกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น