ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเปิดบ้านต้อนรับนายกเมืองมิซูโอะ จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมคณะศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเยี่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย ก่อนนำข้อมูลที่ได้ไปเผยแพร่สู่ประชาชนชาวญี่ปุ่น เผยอนาคตยังจะสนับสนุนให้เมืองพัทยา และเมืองมิซูโอะ เป็นบ้านพี่เมืองน้อยที่จะเกื้อหนุนด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ชี้เมืองพัทยาและแหล่งท่องเที่ยวไทยยังมีศักยภาพในสายตาประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเร็วๆ นี้นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นายสิทธิภาพ เมืองคุ้ม ปลัดเมืองพัทยา และนายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคกลางเขต 3 (ชลบุรี) ร่วมให้การต้อนรับนายไอชิซูกะ คูเอมอน นายกเมืองมิซูโอะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นพร้อมคณะ ศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวที่เดินทางมาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเมืองท่องเที่ยวของไทยในหลากหลายพื้นที่ เช่น อำเภอชะอำ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองพัทยา กรุงเทพมหานครฯ และจังหวัดชัยนาท
นายไอชิซูกะ เผยว่า ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ดี ในสายตาประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดี ที่ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาเห็นถึงศักยภาพของเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้กลับไปพิจารณาและนำเสนอต่อประชากรในประเทศญี่ปุ่น คาดว่าในอนาคตทั้งสองประเทศจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการกำหนดให้เมืองมิซูโอะและเมืองพัทยา เป็นบ้านพี่เมืองน้องหรือ Sister Town เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวตลอดจนวัฒนธรรมและภาษาอันจะเป็นส่วนผลักดันให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวในทวีปเอเชียดูมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นและสิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาด้านการสื่อสาร โดยพิจารณาในเรื่องของภาษาเป็นหลัก
ในส่วนปัญหาการเมืองภายในประเทศ ที่ไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ประชาชนชาวญี่ปุ่นมิได้มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว เพราะชาวญี่ปุ่นมีวิจารณญาณในการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล จึงเป็นไปไม่ได้ว่าประเด็นดังกล่าวจะทำให้การตัดสินใจเที่ยวของชาวญี่ปุ่น ที่มีต่อประเทศไทยลดน้อย หรือมีการยกเลิกการเดินทางแต่อย่างใด หากแต่ว่าชาวญี่ปุ่นมีนิสัยส่วนตัว ซึ่งต้องการแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จึงทำให้การตัดสินใจเลือกเมืองท่องเที่ยวค่อนข้างละเอียดอ่อนมากกว่านักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น
ด้านผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 3 (ชลบุรี) กล่าวถึงตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นว่าเคยเป็นตลาดหลักของเมืองพัทยาเมื่อประมาณ 10-15 ปีก่อน แต่ภายหลังเมื่อมีการขยายตัวของกลุ่มบาร์เบียร์และธุรกิจเอนเตอร์เทรนต่างๆ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้หายไป เนื่องจากชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง และต้องการการพักผ่อนแบบสงบ ซึ่งปัจจุบันพัทยามีกลุ่ม นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ประมาณ 4 หมื่นคนต่อปี
จุดนี้ ททท.จึงจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อทำตลาดญี่ปุ่นเพื่อให้ประชากรรุ่นใหม่ได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเมืองพัทยาที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยใช้เงินก้อนแรกประมาณ 8 แสนบาท ทำประชาสัมพันธ์ร่วมกับ ททท.สำนักงานเมืองโตเกียว โอซาก้า และฟูโอกะ และยังได้จัดสรรงบประมาณก้อนที่สองอีก 3 ล้านบาท เพื่อใช้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในต้นปี 2552อีกด้วย
ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่พัทยามีอยู่เป็นกลุ่มเก่าที่มีความคุ้นเคยกับเมืองพัทยา และกลุ่มนี้จะอาศัยตามโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวรอบนอกเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย ในส่วนการจัดสรรงบประมาณนั้น เรามุ่งเน้นทำตลาดชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ ที่เป็นวัยรุ่นและกลุ่มครอบครัวที่ยังไม่รู้จักเมืองพัทยา เพื่อให้รับทราบถึงข้อมูลการท่องเที่ยวที่แท้จริง เพราะนอกเหนือจากความเป็นเมืองแห่งความบันเทิงแล้ว พัทยายังมีจุดขายอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในเรื่องของสนามกอล์ฟที่เมืองพัทยามีอยู่และในพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 15 สนาม ยังเป็นจุดขายที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ และเชื่อว่าจะเปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ที่คาดว่าจะเติบโตอีกในอนาคตอันใกล้นี้