น่าน - ตำรวจน่านจับฆาตกรที่เป็นพี่ชายฆ่าตัดหัวน้องในไส้ได้แล้ว ระบุ พี่ชายสติไม่ดี เพิ่งเข้ารับรักษาตัวที่ รพ.ประสาทไม่นานแต่มาก่อเหตุเสียก่อน
เวลา 03.35 น.วันนี้ (4 พ.ย.) พ.ต.ท.สมชาย กาวิเนตร สารวัตรเวร สภ.เรือง อ.เมืองน่าน จ.น่าน รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามบ้านสไมย์ หมู่ 2 ต.นาซาว อ.เมือง จ.น่าน ว่า มีเหตุฆ่าตัดคอ ที่บ้านเลขที่ 40 บ้านนาหิน หมู่ 3 ต.นาซาว อ.เมือง จ.น่าน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จ.น่าน, พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รอง ผบภ.จ.น่าน รุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.ท.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.น่าน, พ.ต.ท.ถนัด พลพานิช สว.สส ภ.จ.น่าน, พ.ต.ท.สัญญพงศ์ เจียมการกิจ ผกก.สภ.เรือง พ.ต.ท.เกรียงไกร แช่มชุ่ม สว.วท.จ.น่าน, พ.ต.ต.สมศักดิ์ ตันคำปวน สว.สส.สภ.เรืองฯ พร้อมนายแพทย์วีระชัย เตชะเสนา แพทย์เวรโรงพยาบาลน่าน เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย อบจ.น่าน ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ริมทางเดินด้านในพบร่าง นายกุล สายแก้ว อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพทำนา/ทำไร่ข้าวโพด สภาพศพนอนตายอยู่ในสภาพสยดสยอง สวมเสื้อยืดคอกลม สีขาว สวมกางเกงลายพรางแบบทหาร ลักษณะนอนหงาย เหลือแต่ตัว ส่วนศีรษะขาดหายไป บริเวณที่เกิดเหตุมีเลือดกระจายทั่วบริเวณส่งกลิ่นคาวคลุ้ง ห่างไปจากจุดพบศพ 12 เมตร บริเวณหลังบ้านเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เมื่อพบส่วนศีรษะของศพ ฟันจนเละวางไว้ในกะละมังขนาดเล็ก ในสภาพสมองกระจาย
จากการตรวจพิสูจน์ นายแพทย์วีระชัย เตชะเสนา แพทย์เวรโรงพยาบาลน่าน จนท.ชุดกู้ภัย อบจ.น่าน ร่วมพิสูจน์พลิกศพ พบว่า นายกุล ถูกของมีคมตัดคอ เพียงครั้งเดียว เพราะมองเห็นได้ว่าไม่มีร่องรอยของการหั่น หรือถูไป-มาของมีด และบริเวณหน้าอกถูกแทง จำนวน 10 แผล ตามลำตัว 3 แห่ง เสียชีวิตมาประมาณ 30 นาที แล้วนำร่างและศีรษะ นำใส่ถุง ส่ง รพ.น่าน เพื่อตกแต่งศพก่อนที่จะส่งให้ญาติไปประกอบพิธีต่อไป ส่วนสาเหตุที่ก่อคดี อาจเป็นเพราะอาการทางประสาทกำเริบอย่างรุนแรง และตัว นายสีไลย์ มือมีดก็มีประวัติเรื่องการรักษาตัวอาการทางประสาท อยู่ที่ รพ.น่าน และเพิ่งเข้ารับการรักษามาได้ไม่นานก็มาก่อเหตุ
จากการสอบสวน นายสีโทน สายแก้ว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายกุล ผู้ตาย ในเบื้องต้น ซึ่งเป็นพี่ชาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ฆาตกรที่ลงมือฆ่าตัดคอ นายกุล ครั้งนี้หาใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของคนตายนั่นเองชื่อ นายสีไลย์ สายแก้ว อายุ 35 ปี ซึ่งมีอาการทางประสาท ให้การว่า ได้พบเห็น นายกุล และนายสีไลย์ นั่งดื่มสุราอยู่บนบ้านเลขที่เกิดเหตุเพียงสองคน ต่อมา ได้ยินเสียงทะเลาะกันจึงตกใจตื่นขึ้นมาดู พบว่า นายสีไลย์ กำลังใช้อาวุธมีด (พร้า) ฟันนายกุลฯ จึงเข้าแย่งมีด(พร้า)จากนายสีไลย์ฯ ไว้แต่ นายสีไลย์ ได้วิ่งไล่จะทำร้ายตนเอง จึงวิ่งหลบหนีไปและได้ขอให้เพื่อนบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เดินทางไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุพบว่า นายกุล ถูกฟันคอขาดและพบนายสีไลย์ นั่งอยู่บนบ้านเลขที่เกิดเหตุจึงเข้าจับกุมตัวพร้อมมีด(พร้า)ของกลาง จำนวน 1 เล่ม ดังกล่าว
นายสีโทน ให้การอีกว่า บ้านหลังเกิดเหตุอาศัยอยู่กัน 4 คน มี นางสม สายแก้ว อายุ 72 ปี มารดา นายสีไลย์ สายแก้ว คนร้ายรายนี้ นายกุล สายแก้ว คนตาย และตน ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตก่อนเกิดเหตุ ตนกลับจากทำไร่มาถึงบ้านได้ซื้อเหล้ามานั่งดื่มกัน ปรากฏว่า ขณะดื่มเหล้าคุยกันเพลินในกลุ่มพี่น้องนั้น อยู่ๆ นายสีไลย์ เกิดอาการเครียดขึ้นมา ลุกจากวงเหล้าเดินไปมาพูดว่า มีคนตามมาจะฆ่า
จากนั้นก็วิ่งไปคว้าเอามีด (พร้า) มาถือไว้ และเดินตรงปรี่เข้ามาหาวงเหล้า ตนกับญาติจึงเข้าไปพยายามจะแย่งมีด แต่ไม่สามารถแย่งมีดได้ จึงวิ่งหลบหนีพร้อมตะโกนให้ นายกุล วิ่งหนีแต่ นายกุล ไม่สามารถวิ่งหนีได้ เนื่องจากเมาสุราอย่างหนัก นายสีไลย์ฯ จึงตรงเข้าใช้มีด(พร้า) ฟันคอ นายกุล ทีเดียวขาดดัง “ฉับ” จนคอขาดกระเด็น และฟันแทง ตามร่างกายนายกุล หลายแห่ง แล้วนายสีไลย์ ได้หิ้วเอาศีรษะของ นายกุล เดินตรงไปหลังบ้าน โยนใส่ในกะละมังหลังบ้านจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป ญาติจึงแจ้งตำรวจจับกุมในทึ่สุด
