ตราด - แก็งแบงก์ปลอมอาละวาดที่จังหวัดตราด เฉพาะร้านทองที่อำเภอเขาสมิงโดนไปเกือบ 2 หมื่นบาท
เวลา 07.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.51) นายบุญเลิศ วรวงษ์ ปลัดอำเภอเขาสมิง ได้แจ้งให้ ผู้สื่อข่าวทราบว่า ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายนำธนบัตรใบละ 1,000 บาทมาทำการซื้อสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด สดเทศบาล ตำบลแสนตุ้งอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด โดยเฉพาะที่ร้านทองยิ่งเจริญตั้งอยู่ในตลาดสดเทศบาล ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด พบว่ามีการนำธนบัตรปลอม มาซื้อมากถึงจำนวน 18,000 บาท
หลังทราบเรื่องแล้วจึงได้ติดต่อไปยังนายอดุลย์ แก้วเยื้อง เจ้าของร้านทองยิ่งเจริญ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างอ้วน หัวล้าน ผิวขาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด ได้เดินทางมาที่ร้าน โดยมีใบรับจำนำทองของร้านอยู่ ที่ชายคนดังกล่าวได้นำมาจำนำ ไว้เมื่อกว่า 10 วันที่แล้ว ซึ่งใบรับจำนำดังกล่าวระบุว่า ได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มาจำนำไว้ในราคา 6,000 บาท ซึ่งชายคนดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์ว่าจะไถ่ถอนคืน
แต่กลับเปลี่ยนใจบอกว่าจะขอเปลี่ยนเป็นทอง น้ำหนัก 2 บาท พร้อมทั้งได้ตกลงที่จะจ่ายเงินค่าซื้อทองพร้อมค่าไถ่ถอน ดอกเบี้ยให้กับทางร้าน และได้มีการตกลง กันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายชายคนดังกล่าวได้เลือกสร้อยทองน้ำหนัก 2 บาท ทางร้านจึงได้คิดเงินรวมได้จำนวน 34,000 บาท เมื่อชายดังกล่าวจ่ายเงินรับทองเรียบร้อยแล้วก็ออกจากร้านไป
ต่อมาในเวลาประมาณเกือบ 11.00 น. มีลูกค้าเข้ามาในร้านซึ่งมีอาชีพค้าขายเหมือนกัน ได้เข้ามาเพื่อใช้บริการและได้มีการพูดคุยกันตามปกติ และลูกค้าคนนั้นได้พูดให้ฟังว่า เมื่อเช้าขายของแล้วพบว่า มีธนบัตรปลอมเป็นใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ตนเกิดเอะใจจึงได้นำเงินที่อยู่ในลินชักมาทำการนับ พบว่ามี ธนบัตรปลอมที่เป็นใบละ 1,000 บาทจำนวน 18 ใบ และเพื่อความแน่ใจจึงได้นำไปให้ธนาคารตรวจสอบและยืนยัน ว่าเป็นของปลอมจริง
“หลังจากนั้นจึงได้กลับมาที่ร้านและเปิดกล้องวงจรปิดดูว่ามีใครบ้างที่เข้ามาซื้อทองที่ร้าน ซึ่งก็พบพิรุธว่ามีชายคนหนึ่งที่มีอาการลุกลี้ลุกลนตอนที่เข้ามาซื้อทองพบว่ามีการนับเงินจำนวน 6-7 ครั้ง ควักเงินเข้าออก จากกระเป๋าบ่อย ๆ เหมือนจะให้แน่ใจว่าไม่ผิดพลาด เพราะเงินที่พบว่าเป็นแบงค์ปลอมส่วนใหญ่จะเจอจากเงิน ในกองนี้ แต่ทางร้านก็ไม่ได้แจ้งความเพราะว่าเราไม่ได้รู้ตอนที่เขาเข้ามาซื้อ และก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนนี้หรือไม่ เพียงแต่สงสัยในพฤติกรรมที่มีลักษณะลุกลี้ลุกลนเท่านั้นเพราะว่าเราทราบว่าเป็นธนบัตรปลอมก็เกือบจะ 15.00 น.แล้ว และเท่าที่ทราบพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าโดนกันไปหลาย รายเหมือนกัน แต่จะน้อยกว่าที่ร้าน”
เวลา 07.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.51) นายบุญเลิศ วรวงษ์ ปลัดอำเภอเขาสมิง ได้แจ้งให้ ผู้สื่อข่าวทราบว่า ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายนำธนบัตรใบละ 1,000 บาทมาทำการซื้อสินค้าจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด สดเทศบาล ตำบลแสนตุ้งอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด โดยเฉพาะที่ร้านทองยิ่งเจริญตั้งอยู่ในตลาดสดเทศบาล ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด พบว่ามีการนำธนบัตรปลอม มาซื้อมากถึงจำนวน 18,000 บาท
หลังทราบเรื่องแล้วจึงได้ติดต่อไปยังนายอดุลย์ แก้วเยื้อง เจ้าของร้านทองยิ่งเจริญ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างอ้วน หัวล้าน ผิวขาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำทั้งชุด ได้เดินทางมาที่ร้าน โดยมีใบรับจำนำทองของร้านอยู่ ที่ชายคนดังกล่าวได้นำมาจำนำ ไว้เมื่อกว่า 10 วันที่แล้ว ซึ่งใบรับจำนำดังกล่าวระบุว่า ได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง มาจำนำไว้ในราคา 6,000 บาท ซึ่งชายคนดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์ว่าจะไถ่ถอนคืน
แต่กลับเปลี่ยนใจบอกว่าจะขอเปลี่ยนเป็นทอง น้ำหนัก 2 บาท พร้อมทั้งได้ตกลงที่จะจ่ายเงินค่าซื้อทองพร้อมค่าไถ่ถอน ดอกเบี้ยให้กับทางร้าน และได้มีการตกลง กันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายชายคนดังกล่าวได้เลือกสร้อยทองน้ำหนัก 2 บาท ทางร้านจึงได้คิดเงินรวมได้จำนวน 34,000 บาท เมื่อชายดังกล่าวจ่ายเงินรับทองเรียบร้อยแล้วก็ออกจากร้านไป
ต่อมาในเวลาประมาณเกือบ 11.00 น. มีลูกค้าเข้ามาในร้านซึ่งมีอาชีพค้าขายเหมือนกัน ได้เข้ามาเพื่อใช้บริการและได้มีการพูดคุยกันตามปกติ และลูกค้าคนนั้นได้พูดให้ฟังว่า เมื่อเช้าขายของแล้วพบว่า มีธนบัตรปลอมเป็นใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ตนเกิดเอะใจจึงได้นำเงินที่อยู่ในลินชักมาทำการนับ พบว่ามี ธนบัตรปลอมที่เป็นใบละ 1,000 บาทจำนวน 18 ใบ และเพื่อความแน่ใจจึงได้นำไปให้ธนาคารตรวจสอบและยืนยัน ว่าเป็นของปลอมจริง
“หลังจากนั้นจึงได้กลับมาที่ร้านและเปิดกล้องวงจรปิดดูว่ามีใครบ้างที่เข้ามาซื้อทองที่ร้าน ซึ่งก็พบพิรุธว่ามีชายคนหนึ่งที่มีอาการลุกลี้ลุกลนตอนที่เข้ามาซื้อทองพบว่ามีการนับเงินจำนวน 6-7 ครั้ง ควักเงินเข้าออก จากกระเป๋าบ่อย ๆ เหมือนจะให้แน่ใจว่าไม่ผิดพลาด เพราะเงินที่พบว่าเป็นแบงค์ปลอมส่วนใหญ่จะเจอจากเงิน ในกองนี้ แต่ทางร้านก็ไม่ได้แจ้งความเพราะว่าเราไม่ได้รู้ตอนที่เขาเข้ามาซื้อ และก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนนี้หรือไม่ เพียงแต่สงสัยในพฤติกรรมที่มีลักษณะลุกลี้ลุกลนเท่านั้นเพราะว่าเราทราบว่าเป็นธนบัตรปลอมก็เกือบจะ 15.00 น.แล้ว และเท่าที่ทราบพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าโดนกันไปหลาย รายเหมือนกัน แต่จะน้อยกว่าที่ร้าน”
