ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ตลาดชายแดนแม่สายคึกคักรับลมหนาว หลังเชื่อมั่นปีนี้หนาวจัดและยาวนาน พ่อค้าเริ่มนำเสื้อค้างสต๊อคออกขายเรหลัง พร้อมสั่งซื้อเพิ่มจากจีนอีกเพียบ เผยสินค้ามีทุกเกรดตั้งแต่ 2-3 พันบาท/ตัว จนถึงไม่เกิน 100 บาท/ตัว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ในช่วงต้นฤดูหนาวปลายปี 2551 นี้ พบว่า ผู้ประกอบการค้าสินค้าชายแดนด้าน อ.แม่สาย ต่างสั่งซื้อสินค้าเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวตามแนวชายแดนกันอย่างคึกคัก แต่ยังไม่มีการนำสินค้าเข้ามา เพียงแต่เป็นคำสั่งซื้อหรือออเดอร์เท่านั้น แต่ก็ทำให้บรรยากาศการค้าขายสินค้าชายแดน โดยเฉพาะตามตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และตลาดดอยเวา ตลาดสายลมจอย ตลาดไม้ลุงขน ในฝั่ง อ.แม่สาย มีความคึกคักมากขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน
ทั้งนี้ คาดว่าสินค้าเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวจะค่อยๆ ทยอยส่งมายังตลาดชายแดนในไม่กี่วันนี้โดยขนส่งทางเรือในแม่น้ำโขงจากมณฑลหยุนหนัน ขึ้นฝั่งที่เมืองพง ห่างจากท่าขี้เหล็กเพียงเล็กน้อยและส่งมาตามทางบกจนถึงตลาดชายแดน และอีกส่วนหนึ่งขนส่งขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงแสน ก่อนกระจายไปยังตลาดที่แม่สาย จังหวัดต่างๆ รวมทั้งกรุงเทพฯ ต่อไป
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า ฤดูหนาวปีนี้สถานการณ์การค้าขายสินค้าเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวคึกคักมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เคยมีข่าวว่าจะหนาว แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่เป็นไปตามนั้น ขณะที่นักธุรกิจชายแดนต่างมีออเดอร์สินค้ามาเก็บเอาไว้เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ข่าวสารเรื่องสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้รับการยืนยันว่าจะหนาวจัดเป็นระยะเวลายาวนาน รวมทั้งสภาพอากาศในปัจจุบันช่วงปลายเดือน ต.ค.ก็เริ่มบ่งชี้แล้วว่าสภาพอากาศเริ่มเย็นลง ดังนั้น ตลาดสินค้าประเภทนี้จึงดูคึกคักอย่างเต็มที่
นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีออเดอร์สั่งซื้อเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก โดยสินค้าเหล่านี้มีราคาถูกและเหมาะสมกับผู้บริโภคระดับรากหญ้าหรือชาวบ้านทั่วไป แต่ก็มีสินค้าเกรดต่างๆ ตั้งแต่ 2 เอ-6 เอ ให้เลือกซื้อเช่นกันทำให้บางตัวมีราคากว่า 2-3 พันบาท ขณะที่บางตัวราคาตั้งแต่ 70 บาท ถึงหลายร้อยบาท แล้วแต่จะเลือกซื้อ ล่าสุดบรรยากาศการค้าขายสินค้าประเภทนี้เริ่มคึกคัก โดยพ่อค้าแม่ค้าได้นำสินค้าค้างสต๊อกจาก 2-3 ปีก่อนมาเรหลังขายกันแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีออเดอร์นำเข้ามาเพิ่มอีกมากด้วย
สำหรับการค้าชายแดนด้าน อ.แม่สาย พบว่ามีมูลค่าการค้ารวมปีละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2550 มีการนำเข้ากว่า 700 ล้านบาท เพราะมีการนำเข้าท่อนซุง แต่ในปีงบประมาณ 2551 ลดลงเหลือเพียง 200 ล้านบาท เพราะไม่มีการนำเข้าไม้ซุง ส่วนสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งมีเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวอยู่ด้วยมีอยู่ประมาณ 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมีบางส่วนที่ลักลอบนำเข้า ซึ่งก็ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดของกลางอยู่หลายครั้งเช่นกัน