เชียงราย - รองประธานหอการค้าแม่สาย ชี้ปัญหาน้ำสายท่วมพื้นการค้าชายแดน แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ปีนี้เกิดขึ้นถี่ผิดปกติกว่า 4-5 ครั้ง ทำให้ทุกฝ่ายได้รับความเสียหายหนัก เร่งหาแนวทางในการรับมือในปีต่อไป หากยังไม่สามารถขุดลอกลำน้ำสายได้ โดยอาจจะขยับขยายพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้สูงพ้นน้ำ และเริ่มมีผู้ประกอบการฝั่งไทยบางรายก่อกำแพงกั้นน้ำเข้าร้านแล้ว
จากกรณีที่เกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาดอยกูเต็งน่าโย่ง กั้นชายแดนไทย-พม่า ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การค้าชายแดน สูง กว่า 50 ซม. ร้านค้าริมแม่น้ำสาย ทั้ง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศสหภาพพม่า ถูกน้ำท่วมขัง รวม 5 ครั้ง ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ทำให้พื้นที่การค้าชายแดนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถึงแม้น้ำจะลดลงหมดแล้ว แต่ก็ต้องมีการซ่อมแซมความเสียหาย หลังน้ำแห้งเพื่อให้เปิดจำหน่ายสินค้าได้ทันที
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา ผู้บริหาร บริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด และท่าขี้เหล็กอินเตอร์ช็อป ซึ่งได้รับการทาบทามดำรงตำแหน่ง รองประธานหอการค้าแม่สาย ซึ่งจะมีพิธีเปิดหอการค้าแม่สาย อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ก.ย.2551 นี้ กล่าวว่า ปัญหาน้ำสายเอ่อท่วมพื้นที่การค้าชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และตลาดท่าล่อ จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า ปีนี้เกิดขึ้นถี่ผิดปกติรวม 4-5 ครั้ง ซึ่งในครั้งแรกส่วนมากผู้ประกอบการแทบไม่ทันตั้งตัว เพราะเกิดตอนเช้ามืด สินค้าจึงเปียกน้ำเสียหายจำนวนมาก
โดยเฉพาะร้านค้าที่อยู่ที่ลุ่มต่ำจะถูกน้ำท่วมหนัก แม้กระทั่ง ร้านท่าขี้เหล็กอินเตอร์ช็อปที่อยู่ใกล้สะพาน และมีการสร้างไว้ดี กว่า 3 ชั้น และมีประตู ชั้นล่างยังถูกน้ำป่าซึ่งพัดแรงมากพัดข้าวของกระจัดกระจายหายไปกับสายน้ำจำนวนมาก และยังทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บกวาดดินโคลนหลังน้ำลดทุกครั้งรวมทั้งการซ่อมแซมสถานที่หลายส่วน รวมเสียหายนับล้านบาทต่อ 1 ร้านค้าขนาดใหญ่ โดยผู้ประกอบการชาวไทยต้องช่วยเหลือตัวเองในการรับการรับภาระเองทั้งหมด ทำให้หลายคนถึงกับเครียดไปก็มี
สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งฝ่ายไทยมีการเสนอแผนในการขุดลอกลำน้ำสายเพื่อลดการตื้นเขิน หากทำได้โดยเร็วก็จะดี และอาจจะต้องมีการหารือกับทุกฝ่ายเพื่อระดมหาแนวทาง ซึ่งหากยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะรับมือกับปัญหานี้ในปีหน้า เชื่อว่าผู้ประกอบการคงต้องหาทางรับมือกับปัญหาเองไปก่อน ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับพื้นที่ขายสินค้าให้สูงขึ้นให้พ้นน้ำ หรือ ย้ายที่ตั้งที่ต่ำมากไปยังจุดที่สูงพ้นน้ำ
นอกจากนี้ พบว่ามีผู้ประกอบการชาวไทยที่อาศัยอยู่ติดน้ำสาย มีการก่อกำแพงกั้นน้ำให้สูงขึ้น ซึ่งอาจจะบรรเทาปัญหาได้เท่านั้น เพราะหลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุของน้ำท่วมมาจากแม่น้ำสายตื้นเขินและการบุกรุกลำน้ำของสองฝั่งจนลำน้ำสายแคบลงเรื่อยๆเมื่อน้ำป่าไหลมาจึงเอ่อล้นสองฝั่งไทย-พม่า
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัยพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา น่าจะสูงกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป และการป้องกันปัญหาน่าจะยังทำยาก เนื่องจากแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำกั้นชายแดนสองประเทศ การจะมีการขุดลอกลำน้ำสายต้องได้รับความร่วมมือระดับไทย-พม่า ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขอยู่
