สกลนคร- นายก อบจ.สกลนคร เปิดแถลงนโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ประกาศส่งเสริมการศึกษาโดยตั้งโรงเรียนต้นแบบ ในขณะที่ผู้ช่วยทูตเวียตนามเข้าพบเพื่อหารือด้านการค้าและการแลกเปลี่ยนการศึกษา
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร นายชาญชัย งอยผาลา ประธานสภา อบจ.สกลนคร ได้เรียกประชุมสมาชิกทั้ง 36 เขต เพื่อรับฟังการแถลงนโยบาย ของ นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร คนใหม่ที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2551 และ กกต.ได้ประกาศรับรองไปแล้ว โดย นายชัยมงคล ไชยรบ กล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนในการพัฒนาจังหวัดให้ครอบคลุมทุกด้าน
ส่วนนโยบายที่จะดำเนินการทันที ก็คือ การส่งเสริมการศึกษา โดยเฉพาะการก่อตั้งโรงเรียนต้นแบบ โดยการให้องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล คัดเลือกนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน เข้าเป็นนักเรียนในโครงการ จากนั้นจะจัดหาอาคารสถานที่ หอพัก อุปกรณ์การศึกษา และอื่นๆให้โดย อบจ.จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา
นอกจากนี้ ในด้านระบบสาธารณูปโภคก็จะตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือตามความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะบูรณาการกับส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นเพื่อให้การทำงานเกิดความก้าวหน้าต่อไป
เวลาต่อมานายชาญ กาวัน นายกสมาคมชาวเวียดนามจังหวัดสกลนคร ได้นำ นายเหงียน กัน ฮึง ผู้ช่วยเอกอัคราชทูตเวียตนาม ประจำประเทศไทย ด้านการพาณิชย์ พร้อมคณะ เข้าพบ นายก อบจ.สกลนคร เพื่อปรึกษาในด้านการค้าการลงทุน ระหว่างจังหวัดสกลนครและจังหวัดต่างๆของเวียตนาม ทั้งนี้เนื่องจากแต่ละปีประเทศเวียตนามและไทย ได้ทำการค้าต่อกันและกัน เป็นเงินปีละนับหมื่นล้านบาท
โดยการค้าขายจะยกเว้นการจัดเก็บภาษีโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้เพื่อให้สภาพเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น และก้าวขึ้นไปอยู่ระดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ส่วนด้านอื่นๆ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งเสริมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ก็จะดำเนินการควบคู่กันไป โดยจะมีการประชุมกันอีกครั้งโดยให้จังหวัดสกลนคร เป็นเจ้าภาพ สำหรับด้านการศึกษานั้น ก็จะมีการเลือกเปลี่ยนนักศึกษา
เนื่องจากในอนาคตทั้งไทยและเวียดนาม จะเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยทูตเวียดนามยังกล่าวถึงการผลิตข้าวของเวียดนาม แม้ว่าจะกระเตื้องขึ้นกว่าในอดีต แต่ก็ยังเป็นรองประเทศไทย ที่มีการส่งออกเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งในอนาคตเวียดนามก็ไม่อาจจะแซงการส่งออกข้าวของไทยได้ จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนของที่ระลึกซึ่งกันและกัน และเดินทางกลับ
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร นายชาญชัย งอยผาลา ประธานสภา อบจ.สกลนคร ได้เรียกประชุมสมาชิกทั้ง 36 เขต เพื่อรับฟังการแถลงนโยบาย ของ นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร คนใหม่ที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2551 และ กกต.ได้ประกาศรับรองไปแล้ว โดย นายชัยมงคล ไชยรบ กล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนในการพัฒนาจังหวัดให้ครอบคลุมทุกด้าน
ส่วนนโยบายที่จะดำเนินการทันที ก็คือ การส่งเสริมการศึกษา โดยเฉพาะการก่อตั้งโรงเรียนต้นแบบ โดยการให้องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล คัดเลือกนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน เข้าเป็นนักเรียนในโครงการ จากนั้นจะจัดหาอาคารสถานที่ หอพัก อุปกรณ์การศึกษา และอื่นๆให้โดย อบจ.จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา
นอกจากนี้ ในด้านระบบสาธารณูปโภคก็จะตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือตามความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะบูรณาการกับส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นเพื่อให้การทำงานเกิดความก้าวหน้าต่อไป
เวลาต่อมานายชาญ กาวัน นายกสมาคมชาวเวียดนามจังหวัดสกลนคร ได้นำ นายเหงียน กัน ฮึง ผู้ช่วยเอกอัคราชทูตเวียตนาม ประจำประเทศไทย ด้านการพาณิชย์ พร้อมคณะ เข้าพบ นายก อบจ.สกลนคร เพื่อปรึกษาในด้านการค้าการลงทุน ระหว่างจังหวัดสกลนครและจังหวัดต่างๆของเวียตนาม ทั้งนี้เนื่องจากแต่ละปีประเทศเวียตนามและไทย ได้ทำการค้าต่อกันและกัน เป็นเงินปีละนับหมื่นล้านบาท
โดยการค้าขายจะยกเว้นการจัดเก็บภาษีโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้เพื่อให้สภาพเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น และก้าวขึ้นไปอยู่ระดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ส่วนด้านอื่นๆ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว การส่งเสริมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ก็จะดำเนินการควบคู่กันไป โดยจะมีการประชุมกันอีกครั้งโดยให้จังหวัดสกลนคร เป็นเจ้าภาพ สำหรับด้านการศึกษานั้น ก็จะมีการเลือกเปลี่ยนนักศึกษา
เนื่องจากในอนาคตทั้งไทยและเวียดนาม จะเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน พร้อมกันนี้ ผู้ช่วยทูตเวียดนามยังกล่าวถึงการผลิตข้าวของเวียดนาม แม้ว่าจะกระเตื้องขึ้นกว่าในอดีต แต่ก็ยังเป็นรองประเทศไทย ที่มีการส่งออกเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งในอนาคตเวียดนามก็ไม่อาจจะแซงการส่งออกข้าวของไทยได้ จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนของที่ระลึกซึ่งกันและกัน และเดินทางกลับ
