xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเรือตรวจความพร้อมหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 สัตหีบ ชลบุรี ตรวจความพร้อมเรือ กำลังพล ปืนใหญ่ ยุทโธปกรณ์ ฝึก “ประจำสถานีรบ” หมู่เรือลาดตระเวนชายแดน เช็กระบบอัตโนมัติปืนกล ปืนใหญ่ประจำแท่นปืนหัวเรือ กลางลำเรือ ท้ายเรือ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียว พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจสำคัญที่รับผิดชอบทะเลตอนบน 12 จังหวัด โดยเฉพาะเขตทะเลติดต่อชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้ (23 ต.ค.) พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พล.ร.ต.วรศักดิ์ จันทร์หนู รองผู้บัญชาการ พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ได้เดินทางมายังดาดฟ้าเรือหลวงสายบุรี ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยมี น.อ.สุชา เคี่ยมทองคำ ผู้อำนวยการกองกำลังพล ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รายถึงการเตรียมความพร้อมของกำลังพล อาวุธ ยุทโธปกรณ์ และเรือรบ เรือช่วยรบทุกลำที่กองเรือยุทธการ ได้ให้การสนับสนุนเรือแต่ละประเภทเข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจในหมู่เรือลาดตระเวนชายแดน และการช่วยผู้ประสบภัยในทะเล ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 1
ซึ่งในปีงบประมาณ 2551 ได้มีเรือรบหลายลำเข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงได้จัดให้มีการฝึก “ประจำสถานีรบ” โดยกำหนดหัวข้อการฝึก และการรับตรวจจากผู้บังคับบัญชาไว้ 4 สาขา คือ สาขากำลังพล สาขายุทธการ สาขาการสื่อสาร และ สาขาการป้องกันความเสียหายในเรือ

ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่า สำหรับภารกิจในการตรวจเรือ และตรวจการฝึกเตรียมความพร้อมในสาขาต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าถ้าเกิดเหตุคับขันใดๆ ในเขตรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายแนวเขตชายทะเล ทั้ง 12 จังหวัด ตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงจังหวัดตราด ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชาทั้งทางบกและทางทะเล กำลังพลประจำเรือ กำลังพลสมทบ และกำลังพลสายเทคนิคต่างๆ ต้องสามารถสนธิกำลังรบได้อย่างรวดเร็ว ปฏิบัติภารกิจได้ชนิดเป็น หนึ่งเดียว ไม่ให้เกิดการสั่งการซับซ้อนหรือเข้าใจผิดแต่อย่างใด การฝึก "ประจำสถานีรบ" จึงเป็นการฝึกที่สำคัญยิ่งในการหาข้อขัดข้อง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาในทุกด้าน เหมือนกับการรบจริง ด้วยการจำลองสถานการณ์ขึ้นมา 1 เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเชิงรุก และเชิงรับ

พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทย กับประเทศกัมพูชา มีพื้นที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบโดยตรงของ ทัพเรือภาคที่ 1 ก็คือ แนวเขตชายแดนทั้งทางบก และทางทะเลทางด้านจังหวัดตราด ซึ่งได้จัดหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนซึ่งเป็นกำลังรบทางเรือ โดยมีฐานทัพเรือตราด หรือฐานส่งกำลังบำรุงตราด เป็นฐานส่งกำลังบำรุงทางด้านการทหาร อีกทั้งกองกำลังจันทบุรี-ตราด มีกำลังรบจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินคอยลาดตระเวนทางบก ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเหนียวแน่น ได้มีการประสานการปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์อย่างแน่นอน



กำลังโหลดความคิดเห็น