สุรินทร์ - สมาคมภาษาและวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์บุกแจกแถลงการณ์ ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านผ่านช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง เรียกร้องรัฐบาลไทยและกัมพูชายุติปัญหาข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ด้านบรรยากาศการค้าขายชายแดนช่องจอมเงียบเหงาหนัก ส่วนกาสิโนเขมรวังเวงแทบไร้เงานักพนัน
วานนี้ ( 17 ต.ค. ) ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรยากาศ การการค้าขายและการเดินทางผ่านเข้า-ออก ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด เป็นไปด้วยความเงียบเหงา พ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาในเขตไทยเพื่อขายสินค้ามีไม่ถึง 50 ราย ขณะที่บ่อนกาสิโนชายแดน 2 แห่งฝั่งประเทศกัมพูชา มีนักพนันและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเล่นการพนันบางตาไม่ถึง 200 คน จากปรกติจะมีนักเล่นการพนันเดินทางเข้า-ออกบ่อนกาสิโน 2 แห่งนี้ กว่า 1,500 คนต่อวัน
นอกจากนี้ ยังคงมี ชาวไทยที่เข้าไปทำงานด้านการเกษตร ปลูกอ้อย และก่อสร้างถนน ที่จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาได้ทะยอยเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยจำนวนหนึ่ง ส่วนเครื่องจักรกลจำนวนมากไม่สามารถนำออกมาได้ และไม่ทราบว่าเครื่องจักรเหล่านั้นจะปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งคนงานเหล่านี้บอกว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทหารกัมพูชาได้เคลื่อนกำลังพลและรถถัง ปืนใหญ่ มุ่งหน้ามายังชายแดนด้านจ.สุรินทร์จำนวนมาก
ขณะนี้เดียวกัน นายชัยมงคล เฉลิมสุขจิตศรี นายกสมาคมภาษาและวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ และนางยุพาสรรค์ แจ้งกระจ่าง ชาวอำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้เดินทางมาแจกแถลงการณ์ ทั้งภาษาไทยและภาษากัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชายุติปัญหาข้อพิพาทพรมแดนด้วยหลักสันติวิธี ให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ประจำด่านทั้ง 2 ประเทศ ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด
โดยขอให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา คำนึงถึงความสัมพันธ์ของประชาชน ชาวไทยจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และประชาชนชาวกัมพูชา ที่อาศัยใกล้ชายแดน มีความสัมพันธ์ดั่งญาติพี่น้องกันมาอย่างช้านาน
นางยุพาสวรรค์ แจ้งกระจ่าง กล่าวว่า ทุกวันนี้ได้รับโทรศัพท์จากพี่น้องชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมากบอกว่า เดือดร้อนหนัก ไม่สามารถหาชื้ออาหารจากฝั่งไทยได้เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงขอให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศได้ยุติปัญหาด้วยสันติวิธี เพื่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศ จะได้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขตลอดไป