บุรีรัมย์ - ป้าวัย 57 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับนายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวหาปลอมลายเซ็นสามีที่เสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้ว เพื่อถ่ายโอนสิทธิ์อาคารในที่รถไฟให้กับคนอื่นอย่างไม่ถูกต้อง ทั้งที่สิทธิ์อาคารจะต้องตกทอดถึงภรรยา
วานนี้ ( 11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมบุรณ์ สมสุข อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ต.ตาจง อ.ลำหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาติดตามผลคดีกับ ร.ต.อ.นิสสัญ วงศ์จันทรา ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2551 ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับ นายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ โดยอ้างว่า นายสวัสดิ์ ได้ร่วมกับพวกทุจริตปลอมลายเซ็นหรือ ลายมือชื่อ นายถึก สมสุข สามีของตนที่เสียชีวิต เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา แล้วทำการถ่ายโอนสิทธิ์เช่าที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างในเขตรถไฟอาคารล็อกที่ 6 ห้องที่ 8 บริเวณหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่ง นายถึก เป็นคนทำสัญญาถือสิทธิ์มาตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง โดยสิทธิ์ของการเช่าควรจะสืบทอดมาเป็นของญาติคนใกล้ชิดก่อน การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ตนต้องเสียโอกาสและสูญเสียเงินตั้งแต่การเช่าที่ดิน และเสียเงินค่าก่อสร้างครั้งแรกกว่า 100,000 บาท
นางสมบูรณ์ สมสุข เล่าว่า สามีได้ทำหนังสือสัญญาเช่าที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างของการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อประมาณปี 2522 โดยการชำระเงินเป็นงวดระหว่างการก่อสร้างให้กับการรถไฟฯ รวมทั้งหมดกว่า 100,000 บาท จากนั้นได้ให้นายอำพร ไม่ทราบนามสกุลเช่าต่อเดือนละ 500 บาท แต่ไม่เคยได้รับค่าเช่า เพราะอยู่ไกลจากตัวเมือง
ต่อมานายอำพร ได้ขอซื้อสัญญาต่อกับนายถึก จึงตกลงขายให้ในราคา 55,000 บาท แต่กลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ จึงไม่มีการโอนสิทธิ์ให้กับนายอำพร แต่อย่างใด ส่วนการจ่ายค่าเช่าทำเนียมที่ดินของการรถไฟฯ นายอำพร เป็นคนจ่ายให้ตลอดมา เมื่อปี 2540 สามีได้เสียชีวิตลง โดยตนยังไม่ดำเนินการใดๆต่อ
กระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2551 การรถไฟฯ ได้มีหนังสือมาให้นายถึก ให้ไปทำสัญญากับการรถไฟต่อ ตนซึ่งเป็นภรรยา จึงเดินทางมาที่สถานีรถไฟ จากตรวจสอบเอกสารจากนายบรรจง จันทร ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟ รักษาการแทนนายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ในขณะนั้น พบว่าห้องที่ 8 ล็อกที่ 6 ซึ่งเป็นชื่อของ นายถึก ได้มีการถ่ายโอนให้กับ น.ส.พัชรินทร์ พวงเพชร เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2551 และมีการตรวจรับมอบอาคารเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2551 โดยมีลายเซ็นหรือลายมือชื่อ ของนายถึก สมสุข เป็นผู้โอนให้ และมีนายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ เป็นผู้เซ็นรับทราบ ทั้งที่นายถึก ได้เสียชีวิตไปเมื่อ ปี 2540 นานกว่า 10 ปีแล้ว
การกระทำดังกล่าว นายสวัสดิ์ ปานน้อย นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กับ น.ส.พัชรินทร์ พวงเพชร เป็นการปลอมแปลงลายเซ็นนายถึก เพื่อให้ทำการโอนสิทธิ์ได้โดยใช้อำนาจของนายสถานีรถไฟ โดยตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน ตนเชื่อว่าน่าจะมีการวิ่งเต้นรับผลประโยชน์ต่อกันอย่างแน่นอนเนื่องจากห้องแถวดังกล่าว ปัจจุบันมีราคาขายสิทธิ์สูงถึงกว่า 300,000 บาท
อย่างไรก็ตามตนจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการปลอมแปลงเอกสารในครั้งนี้จนถึงที่สุด เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและขอสิทธิ์รับมรดกจากสามีตามกฎหมายต่อไป นางสมบูรณ์ กล่าว