ตราด - นักท่องเที่ยว “เดนมาร์ก” ร้องสื่อถูกดำเนินคดีจาก สภ.เกาะช้าง โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ระบุแค่ขับ จยย.ชนบ้าน ถูกตำรวจจับ ไม่แจ้งข้อหาพร้อมนำตัวฝากขังเรือนจำตราดสถานทูตเดนมาร์ก ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบครอบครัวยื่นประกันตัว, ประกาศฟ้องตำรวจ
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่บริเวณเรือนจำ จ.ตราด นางวาสนา หาญโพอายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 6ต.บ้านปีด อ.กู่แก้ว จ.อุดรราชธานี ภรรยาของ MR.KWUDMUWKHOESJ อายุ 58 ปี เป็นชาวเดนมาร์ก พร้อม นายศราวุฒิ ชอบรส ทนายความเดินทางมาที่เรือนจำ จ.ตราด เพื่อขอประกันตัวสามี หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะช้าง จับกุมตัวโดยไม่ทราบข้อกล่าวหา เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 6 ตุลาคม 2551
ภายหลัง นายศราวุฒิ ชอบรส นำหมายศาลปล่อยตัวชั่วคราวมาให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.ตราดแล้ว ในเวลา 11.30 น.MR.KWUD MUWKHOESJ จึงถูกนำตัวออกมาจากเรือนจำ จ.ตราด
MR.KWUD กล่าวผ่านล่าม ว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2551 เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะช้างกับภรรยาเพื่อมา ทำธุรกิจด้านเอเจนซี่ท่องเที่ยวและรับจัดทัวร์ในเกาะช้าง
หลังได้ติดต่อกับคนในเกาะช้าง และพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ปรากฏว่า ในเวลา 02.00 น.วันที่ 6 ตุลาคม 2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เกาะช้าง ได้เชิญตัวไปที่ สภ.เกาะช้าง เพื่อทำการสอบสวนโดยไม่ระบุถึงสาเหตุ โดยการสอบสวนไม่มีคนไทยหรือ ภรรยาเข้าไปร่วมรับฟังด้วย
จากนั้นก็ให้อ่านสำนวนสอบสวนที่เป็นภาษาไทย ที่ตนเองไม่รู้และอ่านไม่ออกและนำตัว เข้าห้องขัง แล้วในเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ก็ได้นำตัวไปฝากขังในเรือนจำจ.ตราด ซึ่งตนเองได้ให้ภรรยาติดต่อ ทนายความและแจ้งไปที่สถานทูตเดนมาร์ก เพื่อขอความช่วยเหลือในคดีความและการประกันตัวโดยทางสถานทูต จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลและร้องเรียนกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ต่อไป
“ผมถูกกลั่นแกล้งโดยไม่ได้กระทำความผิด ตำรวจไทยทำให้มีความรู้สึกไม่ชอบประเทศไทยจะตั้งทนาย ความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และขอบคุณสื่อมวลชนที่มานำเสนอข่าว”
นางวาสนา กล่าวว่า ทราบว่า ตำรวจเกาะช้าง โดย พ.ต.ท.ศิลา กิตติยากุล ที่เป็นพนักงานสอบสวนอ้างว่านายใหญ่เจ้าของร้านอาหารอีสาน และเพื่อนอ้างว่าสามีขับรถจักรยานยนต์ ขนกระจกในร้านอาหารเสียหายซึ่งแค่กระจกในร้านเสียหาย ทำไมต้องเอาผิดถึงขนาดต้องติดคุกติดตารางด้วย
สำหรับสถานทูตเดนมาร์กได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามคดีในเรื่องนี้จากตำรวจภูธร จ.ตราด เพื่อขอรายละเอียดในคดี โดย พ.ต.อ.จรัล จิตเจือจุน ได้รับทราบเรื่องในเบื้องต้นและพร้อมให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย