ผวา! รถไฟหยุดวิ่งปิดตายเส้นทางอีสาน – ผู้ว่าการฯรุดสกัดสหภาพฯ โคราช

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ยุทธนา” ผู้ว่าการรถไฟฯ ผวาเกิดเหตุซ้ำรอยปิดตายเส้นทางเดินรถไฟสายอีสาน รุดลงพื้นที่พบประธานสหภาพแรงงานรถไฟโคราช เชื่อไม่เกิดขึ้นอีกย้ำพูดคุยเข้าใจกันดี พร้อมหยอดคำหวานเดินหน้าพัฒนาองค์กร ให้มีประสิทธิภาพดูแลพนักงานเป็นอย่างดี ด้านประธานสหภาพฯ นครราชสีมา ระบุ รอฟังมติที่ประชุมสหภาพฯ ใหญ่ ที่จะหารือพรุ่งนี้( 8 ต.ค.) ยันพร้อมปฏิบัติตามมติทันที เผยไม่อยากหยุดเดินรถไฟ แต่หาก ปชช.เดือดร้อนจากการกระทำของรัฐบาลก็จำต้องพิจารณา เพราะทุกคนต้องการให้มีการเมืองใหม่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุตำรวจใช้กำลังพร้อมยิงแก๊สน้ำตาและอาวุธร้ายแรงเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้ารัฐสภาพช่วงเช้าวันนี้ ( 7 ต.ค.) ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ (7 ต.ค.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสมหมาย ทับเวศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย และคณะ ได้เดินทางด่วนลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อพบปะตรวจเยี่ยมพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขา นครราชสีมา

คณะของ นายยุทธนา ได้เดินทางไปที่สถานีรถไฟนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนเดินทางต่อไปยังที่ทำการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สาขา นครราชสีมา เพื่อเข้าพูดคุยกับ นายสาทร สินปรุ ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขา นครราชสีมา โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลเข้ารับฟังแต่อยางใด และใช้เวลาในการพูดคุยกันนานกว่า 45 นาที

จากนั้นคณะของ นายยุทธนา ได้เดินทางไปยังที่ทำการวิศวกรกำกับการกองลากเลื่อนเขตนครราชสีมาฝ่ายการช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจเยี่ยมงานด้านการซ่อมบำรุงของการรถไฟนครราชสีมา ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพนักงานการรถไฟเป็นอย่างดี

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาเยี่ยมเยียนพนักงานการรถไฟฯ ที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้งฝ่ายเดินรถ ฝ่ายโยธา โรงรถจักร และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ เพื่อมาดูแลพนักงานและรับทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น การพิจารณาปูนบำเหน็จตำแหน่งให้กับพนักงานให้ได้รับทันเวลาในปีงบประมาณใหม่

“ พร้อมได้ขอความร่วมมือในการให้บริการประชาชนอย่าให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หรือไม่ทำการหยุดเดินรถประท้วงอีก เพื่อไม่อยากสร้างปัญหาให้กับสังคมเพราะเราไม่อยากจะเข้าไปฝักใฝ่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่พยายามดูแลประชาชนเป็นหลัก” นายยุทธนา กล่าว

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า การพูดคุยกับประธานสหภาพแรงงานฯ ในครั้งนี้ ไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นกรณีพิเศษ แต่เป็นการแวะมาเยี่ยมเยียนและรับฟังปัญหาร่วมกันว่าทางสหภาพฯ ที่นี่มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องการบริหาร อย่างไรก็ตาม การพูดคุยวันนี้ ทำให้เชื่อว่า น่าจะไม่มีเหตุการณ์การหยุดเดินรถซ้ำรอยปลายเดือน ส.ค.ขึ้นอีก เนื่องจากพนักงานรถไฟเข้าใจถึงปัญหาและภาระหน้าที่ดี ซึ่งที่ตนมาในวันนี้เพราะอยากจะมาช่วยส่งเสริมการทำงานขององค์กรรถไฟให้เข้มแข็งมากขึ้น และเพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการให้บริการของการรถไฟมากขึ้น ซึ่งเราจะร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นในองค์กร

ทั้งนี้ หากพนักงานการรถไฟ โดยเฉพาะพนักงานขับรถไฟลาหยุดงานพร้อมกันอีกจะมีมาตรการอย่างไรนั้น นายยุทธนา กล่าวว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นคงจะต้องมีสิ่งบอกเหตุมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ และหากมีก็จะต้องลงไปแก้ไขปัญหาด้วยการทำความเข้าใจ แต่หากไม่สามารถทำความเข้าใจกันได้ ก็คงจะต้องมีวิธีทำงานสำรองไว้เพื่อแก้ไขปัญหา แต่มาถึงวันนี้ตนยังเชื่อมั่นในองค์กรรถไฟฯว่า ทุกวันนี้พนักงานเกี่ยวข้องกันการเดินรถส่วนใหญ่จะเข้าใจถึงปัญหา และเชื่อมั่นว่าจะบริการประชาชนให้ดีที่สุด

ด้าน นายสาทร สินปรุ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขา นครราชสีมา กล่าวว่า เนื้อหาของการเจรจาพูดคุยกับผู้ว่าการการรถไฟฯ ในวันนี้ คือ ผู้ว่าการฯ ได้ขอบคุณพนักงานการรถไฟสาขานครราชสีมา ในเรื่องที่เปิดเดินรถไฟสายอีสานเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการบริหารงานของฝ่ายบริหาร

สำหรับท่าทีของสหภาพแรงงานฯ นครราชสีมา ต่อเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนที่กรุงเทพฯ นั้น จะรอฟังมติของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนกลาง ว่าจะมีท่าทีอย่างไร โดยในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) ตนจะเดินทางเข้าร่วมประชุมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ ที่กรุงเทพฯ เพื่อกำหนดท่าทีการดำเนินการต่อไป ซึ่งหากมติที่ประชุมออกมาอย่างไรพวกเรา ในฐานะสมาชิกสหภาพฯ ก็พร้อมจะปฏิบัติตามทันที

“อย่างไรก็ตามขอชี้แจงไปยังประชาชนว่า การหยุดเดินรถนั้นพนักงานการรถไฟ ไม่อยากจะทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน แต่ถ้าประชาชนทั้งประเทศได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของรัฐบาลก็ต้องกลับมาพิจารณากันอีกครั้งว่า จะสามารถช่วยเหลือกันอย่างไร และช่วยในรูปแบบใดได้บ้าง เพราะทุกคนมีความต้องการการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย” นายสาทร กล่าว