ศูนย์ข่าวศรีราชา- การลงทุนด้านอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ ในเขตตำบลแหลมฉบัง และอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ยังเป็นไปอย่างคึกคัก สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ พบ กลุ่มทุนต่างชาติเริ่มขยายการลงทุนสู่รอบนอกตัวเมืองศรีราชา ขณะที่การซื้อขายที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 30-80 ล้าน มีการเปลี่ยนมือสูงมาก ส่งผลให้ยอดการจัดเก็บภาษีที่ดินปีนี้มีมากถึง 500 ล้านบาท
นายอภิชาต ฉุนพ่วง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา กล่าวถึงสถานการณ์การลงทุนในเขตตำบลแหลมฉบัง และอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการลงทุนของจังหวัด จนส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างถิ่นและการเข้ามาของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติว่า ยังคงคึกคักและมีความเคลื่อนไหว สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการลงทุนในหลายภาคส่วนหยุดชะงัก
ทั้งนี้จะเห็นได้จากการซื้อขายที่ดินแปลงใหญ่ๆ ระดับราคา 30-80 ล้านบาท ยังพบเห็นได้อย่างต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนมืออยู่ตลอดเวลา โดยตำบลแหลมฉบัง และอำเภอศรีราชา ยังเป็นพื้นที่ที่มีจุดดึงดูดทางการลงทุน ทั้งในเรื่องของการมีท่าเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ เส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย และเชื่อมต่อกับหลายพื้นที่ของประเทศ และการลงทุนก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมทั้งของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคครบครัน
ขณะที่การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างชาติและแรงงานต่างถิ่น ที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ก็ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอศรีราชาและตำบลแหลมฉบัง ซึ่งราคาที่ดินยังไม่ขยับตัวมากนัก โดยราคาที่ดินบริเวณถนนสาย 9 กิโล ที่กำลังมีการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สูง ราคาประเมินยังอยู่ที่ตารางวาละ 2,000 บาท ส่วนบริเวณโดยรอบสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ และตำบลบ่อวิน ก็ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุน หลังนักลงทุนต่างชาติ ที่ขยายพื้นที่การลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“การเคลื่อนไหวดังกล่าวเห็นได้ชัดจากตัวเลขการจัดเก็บรายได้ ที่สำนักงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่นำส่งสรรพากรจังหวัด ที่พบว่า เฉพาะการซื้อขายที่ดินในพื้นที่อำเภอศรีราชา มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีสูงถึง 500 ล้านบาท โดยแม้จะมีการประกาศลดค่าธรรมเนียมไปมากแล้วก็ตาม แต่การจัดเก็บภาษีที่ดินในพื้นที่ศรีราชา-แหลมฉบังก็ยังคงมีสูงอยู่จนทำให้ขณะนี้การขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ไม่ทันต่อการเจริญเติบโตของเมืองและการลงทุน”
จากการลงสำรวจพื้นที่ของ “ผู้จัดการ” พบว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนทั้งภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ในเขตอำเภอศรีราชา ยังได้ขยายตัวออกสู่พื้นที่รอบนอกตั้งแต่บริเวณถนนสุขุมวิทสาย 7 และถนนสาย 331 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนเริ่มขยับขยายการลงทุน และที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง