ศูนย์ข่าวศรีราชา - วิศวกร ซี 7 เมืองพัทยา ถูดมือปืนขี่จักรยานยนต์สะกดรอยตาม รอจังหวะลงเปิดประตูรั้วบ้าน ลั่นกระสุนปืน 2 นัด ตัดขั้วหัวใจดับคาที่ ตำรวจสัตหีบยังมืดมนรอประสานตำรวจพัทยาหาข้อมูลปมขัดแย้ง
เวลา 04.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) ร.ต.ต.อานนท์ อินทร์ฟอง ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นางผ่องพรรณ นิลคำ อายุ 49 ปี ว่า นายสนิท นิลคำ อายุ 49 ปี เจ้าที่หน้าที่ วิศวกรโยธา ระดับซี 7 (วช.) ประจำฝ่ายสำนักงานการช่างเมืองพัทยา แผนกควบคุมก่อสร้าง ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอยู่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 45 / 7-8 ทางเข้าวัดห้วยใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวน พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม พ.ต.ท.สุธรรม ชาวสีทอง สารวัตปราบปราม พ.ต.ต.วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นายสนิท นิลคำ อายุ 49 ปี เจ้าที่หน้าที่วิศวกรโยธา ระดับซี 7 (วช.) ประจำฝ่ายสำนักงานการช่างเมืองพัทยา แผนกควบคุมก่อสร้าง มีภูมิลำเนาเดิมตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 163/77 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อคอปกสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิงเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด และ ราวนมซ้าย 1 นัด ตัดขั้วหัวใจกระสุนฝังใน โดยมีนางผ่องพรรณ นิลคำ ภรรยา และลูกสาวนั่งร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ข้างศพ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กย-6484 ชลบุรี ซึ่งเป็นของผู้ตายสภาพเครื่องยนต์ยังทำงานจอดอยู่ประตูทางเข้าบ้าน
จากการสอบถามนางผ่องพรรณ ภรรยาให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน 2551 สามีได้ขับรถไปส่งตัวเอง ลูก และหลานที่อมตะพัทยา และบอกว่าวันนี้กลับดึกนะเพราะต้องออกไปรับประทานข้าวกับเพื่อนที่ทำงานที่สำนักงานการประปา และคุยเรื่องงานกันด้วย จึงไม่ได้สอบถามว่าไปกับใคร กี่คน และไปที่ไหน อีกทั้งให้เดินทางกลับบ้านกันเองโดยไม่ไปรับ เมื่อกลับมาบ้านแล้วขณะกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้านพัก ได้ยินเสียงรถเก๋งขับมาจอดหน้าบ้าน และได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน จึงไม่ได้สนใจเพราะแน่ใจว่าสามีกลับมาแล้ว ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 04.00 น. จนกระทั่งได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปในซอยวัดห้อวยใหญ่ จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่าสามีนอนตายหงายท้องอยู่หน้าบ้าน
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของวิศวรกร ซี 7 เมืองพัทยา ครั้งนี้ จากประวัติหน้าที่การงาน เป็นคนดี ใจบุญ ไม่เคยขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน และผู้มาประสานงาน ทำงานแบบประนีประนอมมาโดยตลอด เป็นที่รักใคร่ของคนในที่ทำงาน ส่วนเรื่องภายนอกไม่ทราบว่าไปมีส่วนร่วมในการประกอบธุรกิจกับใครบ้างหรือไม่ ต้องหาพยานหลักฐานใกล้ชิดมายืนยัน ก่อนที่จะมุ่งประเด็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจในเมืองพัทยา และใกล้เคียง
ส่วนเรื่องชูสาวที่อาจเป็นอีกประเด็นซึ่งไม่อาจมองข้ามการเสียชีวิต อีกประเด็นหนึ่งก็คือ อาจจะมีที่มาจากหน้าที่การงานเพราะเกี่ยวข้องกับการการขออนุมัติก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในเมืองพัทยา ก็อาจเป็นได้ที่ขัดแย้งกับนักธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องประสานกับตำรวจพัทยา เพราะผู้ตายทำงานในที่ว่าการเมืองพัทยา เพื่อข้อมูล ลบล้างหรือเพิ่มความเข้มของประเด็นในการติดตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป
เวลา 04.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) ร.ต.ต.อานนท์ อินทร์ฟอง ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นางผ่องพรรณ นิลคำ อายุ 49 ปี ว่า นายสนิท นิลคำ อายุ 49 ปี เจ้าที่หน้าที่ วิศวกรโยธา ระดับซี 7 (วช.) ประจำฝ่ายสำนักงานการช่างเมืองพัทยา แผนกควบคุมก่อสร้าง ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตอยู่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 45 / 7-8 ทางเข้าวัดห้วยใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พ.ต.ท.สยามรัฐ รุ่งเรือง รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวน พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม พ.ต.ท.สุธรรม ชาวสีทอง สารวัตปราบปราม พ.ต.ต.วันชัย ทุมทอง สารวัตรสืบสวน พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นายสนิท นิลคำ อายุ 49 ปี เจ้าที่หน้าที่วิศวกรโยธา ระดับซี 7 (วช.) ประจำฝ่ายสำนักงานการช่างเมืองพัทยา แผนกควบคุมก่อสร้าง มีภูมิลำเนาเดิมตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 163/77 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อคอปกสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาด ยิงเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด และ ราวนมซ้าย 1 นัด ตัดขั้วหัวใจกระสุนฝังใน โดยมีนางผ่องพรรณ นิลคำ ภรรยา และลูกสาวนั่งร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ข้างศพ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กย-6484 ชลบุรี ซึ่งเป็นของผู้ตายสภาพเครื่องยนต์ยังทำงานจอดอยู่ประตูทางเข้าบ้าน
จากการสอบถามนางผ่องพรรณ ภรรยาให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 20 กันยายน 2551 สามีได้ขับรถไปส่งตัวเอง ลูก และหลานที่อมตะพัทยา และบอกว่าวันนี้กลับดึกนะเพราะต้องออกไปรับประทานข้าวกับเพื่อนที่ทำงานที่สำนักงานการประปา และคุยเรื่องงานกันด้วย จึงไม่ได้สอบถามว่าไปกับใคร กี่คน และไปที่ไหน อีกทั้งให้เดินทางกลับบ้านกันเองโดยไม่ไปรับ เมื่อกลับมาบ้านแล้วขณะกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้านพัก ได้ยินเสียงรถเก๋งขับมาจอดหน้าบ้าน และได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน จึงไม่ได้สนใจเพราะแน่ใจว่าสามีกลับมาแล้ว ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 04.00 น. จนกระทั่งได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปในซอยวัดห้อวยใหญ่ จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่าสามีนอนตายหงายท้องอยู่หน้าบ้าน
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ กล่าวว่า สำหรับการเสียชีวิตของวิศวรกร ซี 7 เมืองพัทยา ครั้งนี้ จากประวัติหน้าที่การงาน เป็นคนดี ใจบุญ ไม่เคยขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน และผู้มาประสานงาน ทำงานแบบประนีประนอมมาโดยตลอด เป็นที่รักใคร่ของคนในที่ทำงาน ส่วนเรื่องภายนอกไม่ทราบว่าไปมีส่วนร่วมในการประกอบธุรกิจกับใครบ้างหรือไม่ ต้องหาพยานหลักฐานใกล้ชิดมายืนยัน ก่อนที่จะมุ่งประเด็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจในเมืองพัทยา และใกล้เคียง
ส่วนเรื่องชูสาวที่อาจเป็นอีกประเด็นซึ่งไม่อาจมองข้ามการเสียชีวิต อีกประเด็นหนึ่งก็คือ อาจจะมีที่มาจากหน้าที่การงานเพราะเกี่ยวข้องกับการการขออนุมัติก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในเมืองพัทยา ก็อาจเป็นได้ที่ขัดแย้งกับนักธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องประสานกับตำรวจพัทยา เพราะผู้ตายทำงานในที่ว่าการเมืองพัทยา เพื่อข้อมูล ลบล้างหรือเพิ่มความเข้มของประเด็นในการติดตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป
